เชลซี (4-2-3-1): เปโตรวิช, กุสโต้, ซิลวา, ชาโลบาห์, คูคูเรย่า, เฟอร์นันเดซ, ไคเซโด, พาลเมอร์, กัลลาเกอร์, สเตอร์ลิง, แจ็คสัน

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1): เฮอร์มานเซ่น, เชาดารี, ฟาส์, โคอาดี้, ดอยล์, วิงค์ส, ฮอลล์, อิสซาฮากู, จัสติน, มาฟดิดิ้, วาร์ดี้

เจ้าถิ่น เชลซี ผลงานล่าสุดเปิดรังเฉือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-2 ส่งผลให้พวกเขาไร้พ่ายตลอด 3 เกมหลังสุดจากทุกรายการ ขณะที่ผลงานในรายการนี้ผ่านเข้ารอบมาด้วยการเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2 ในเกมรอบที่ 5 ปัจจุบันทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังคงอยู่ในอันดับที่ 11 ของตารางพรีเมียร์ลีก หลังเก็บได้เพียง 39 คะแนนหลังผ่าน 27 เกม (ชนะ 11 เสมอ 6 แพ้ 10) อย่างไรก็ตามด้วยผลงานที่ไม่คงเส้นคงวาโดยเฉพาะเกมรุก-รับที่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ของพวกเขามาตลอดทั้งซีซั่น ทำให้ความหวังในการลุ้นแชมป์ติดไม้ติดมือดูจะมีเพียงถ้วยนี้เท่านั้นที่มีโอกาสทำสำเร็จ ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งานผู้เล่นหน้าเดิมๆที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เป็นจำนวนมาก

ขณะที่ผู้มาเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ผลงานล่าสุดบุกไปเสมอกับ ฮัล ซิตี้ ในเกมแชมป์เปี้ยนชิพ 2-2 ส่งผลให้ใน 5 เกมหลังสุดเก็บชัยชนะได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ปัจจุบันทีมของ เอ็นโซ มาเรสก้า เตรียมตัวสำหรับการกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังจากห่างหายไปหนึ่งฤดูกาล ด้วยการรั้งจ่าฝูงของตารางหลังผ่าน 37 เกมกับการเก็บเพิ่มเป็น 82 คะแนน นำหน้าอันดับที่ 2 อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่เพียง 2 แต้ม ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้จะขาดผู้เล่นตัวหลักอย่าง ริคาร์โด้ เปเรย์รา แบ็คขวาที่ได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

เมื่อวัดจากสถิติ H2H ของทั้งสองทีม เป็นทางฝั่ง เชลซี ที่ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน พวกเขาคว้าชัยชนะ 61 จาก 124 ครั้งและเสมอกันไป 35 เกม ซึ่งการพบกันหนล่าสุดก็ยังเป็นทางด้าน"ทัพสิงห์บลู"ที่บุกไปปล้นชัยมาได้ด้วยสกอร์ 3-1 ในขณะเดียวกันถึงแม้"ทัพจิ้งจอก"จะตกเป็นรองในเกมนี้ แต่พวกเขาก็ได้รับความมั่นใจจากการรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของแชมป์เปี้ยนชิพ สิ่งที่น่าสนใจคือครั้งสุดท้ายที่ เลสเตอร์ เอาชนะ เชลซี ในปี 2021 เกมนั้นคือรอบชิงชนะเลิศในรายการนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเกมนี้จะเป็นอีกเกมที่ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมแลกกัน หากมีทีมใดที่ได้ประตูขึ้นนำก่อน มีสิทธิ์คว้าชัยชนะได้เลย ผลการแข่งขันที่คาด 1-0