เชลซี (4-2-3-1): เปโตรวิช, ดิซาซี, ซิลวา, โคลวิลล์, ชิลเวลล์, เฟร์นันเดซ, ไคเซโด้, พาลเมอร์, กัลลาเกอร์, สเตอร์ลิง, โบรย่า

แอสตัน วิลล่า (4-4-1-1): มาร์ติเนซ, แคช, คอนซ่า, ล็องเล่ต์, โมเร่โน่, เบลีย์, ลุยซ์, กามาร่า, แม็คกินน์, ดิยาบี, วัตกินส์

เจ้าบ้าน เชลซี เดินทางเข้าสู่รอบที่ 4 ด้วยผลงานการเอาชนะ เพรสตัน นอร์ท เอนด์ 4-0 ขณะที่ผลงานในลีกก็เพิ่งคว้าชัยเหนือ ฟูแล่ม 1-0 ทำให้ปัจจุบันพวกเขารั้งอันดับที่ 9 ของตารางหลังผ่าน 21 เกมในลีก (ชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 8) อย่างไรก็ตาม "ทีมสิงโตน้ำเงินคราม" มีลุ้นคว้าแชมป์แรกในยุคของ ท็อดด์ โบห์ลี และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หลังจากที่พวกเขาสามารถเข้าชิงชนะเลิศถ้วยอีเอฟแอล คัพ ได้สำเร็จจากการพลิกกลับมาเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ 6-1 ในบ้านของตัวเอง ส่วนสภาพความพร้อมเกมนี้พวกเขายังคงประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ไม่ว่าจะเป็น รีซ เจมส์, มาร์ค คูคูเรย่า, โรเมโอ ลาเวีย, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และรายล่าสุดอย่าง มาโล กุสโต้ ที่ได้รับบาดเจ็บก่อนเกมอีเอฟแอล คัพ รอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา

ส่วนคู่แข่งอย่าง แอสตัน วิลล่า พวกเขาเข้ามาสู่รอบนี้ด้วยการเฉือนเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ 1-0 ขณะที่ผลงานในลีกล่าสุดทำได้เพียงบุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน แบบไร้สกอร์ ส่งผลให้ลูกทีมของ อูไน เอเมรี่ หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ของตารางหลังผ่าน 21 เกม (ชนะ 13 เสมอ 4 แพ้ 4) ความจริงแล้วต้องบอกว่าฟอร์มการเล่นในฤดูกาลนี้ของพวกเขาทำได้อย่างน่าประทับใจหลังยังคงเกาะกลุ่มหัวตารางได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งนับเป็นการรั้งอันดับบนตารางลีกที่ดีที่สุดในรอบหลายปี อย่างไรก็ตามจากการได้พักมาอย่างเต็มที่จึงทำให้เฮดโค้ชชาวสเปนพร้อมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม

เมื่อวัดจากภาพรวมของทั้งสองทีม ถึงแม้ทางด้านเจ้าบ้านจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้ แต่พวกเขากำลังมีความมั่นใจสูงหลังผ่านเข้าชิงชนะเลิศ อีเอฟแอล คัพ และอาจจะได้เปรียบเล็กน้อยจากการได้ลงเล่นในรังเหย้าของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามการเผชิญหน้ากัน 2 เกมหลังสุดที่สนามแห่งนี้ เป็นทางด้าน แอสตัน วิลล่า ที่บุกมาชนะได้ทั้งหมด ดังนั้นจากเหตุผลข้างต้นเราจึงมองว่าเกมนี้อาจจะไม่จบแบบเดิมเสมอไป เชลซี ที่กำลังอยู่ในช่วงคึกคะนองมีสิทธิ์สูงที่จะยันเสมอกับ "สิงห์ผงาด" ที่มีสภาพร่างกายสดกว่าได้สำเร็จ ผลการแข่งขันที่คาด 2-2