เชลซี (4-2-3-1): เปโตรวิช, กุสโต้, ซิลวา, ดิซาซี, โคลวิลล์, ไคเซโด, เฟอร์นันเดซ, มาดูเอเก้, กัลลาเกอร์, สเตอร์ลิง, พาลเมอร์

มิดเดิลสโบรห์ (3-4-2-1): โกลเวอร์, ฟาน เดน เบิร์ก, ฟราย, คลาร์ก, อายลิ่ง, บาร์เลเซอร์, ฮาวสัน, เอนเจล, โรเจอร์ส, แฮ็คนีย์, ฟอร์ส

เจ้าบ้าน เชลซี เดินทางเข้าสู่เกมนี้ด้วยผลงานการออกไปแพ้ มิดเดิลสโบรห์ มาก่อนในเกมแรกด้วยสกอร์ 1-0 ทำให้ในนัดนี้จำเป็นต้องเอาชนะมากกว่า 1 ลูกเพื่อปูทางสำหรับรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ฟอร์มล่าสุดในลีกเพิ่งเปิดบ้านเฉือน ฟูแล่ม 1-0 ทำให้สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกของพวกเขาค่อยๆดีขึ้น ด้วยการขยับขึ้นมารั้งในอันดับที่ 9 จากการเก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนนหลังผ่าน 21 เกม (ชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 8) ส่วนสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้จะยังขาดผู้เล่นหลายราย โดยเฉพาะ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่มีปัญหาบาดเจ็บสะโพกจนทำให้เขาอาจต้องพักยาวจนถึงสิ้นเดือนมกราคม เช่นเดียวกับ โรเมโอ ลาเวีย นักเตะป้ายแดงที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวน และ เวสลีย์ โฟฟาน่า ที่ยังไม่มีกำหนดในการกลับคืนสนามเร็วๆนี้

ขณะที่ผู้มาเยือน มิดเดิลสโบรห์ พวกเขากุมความได้เปรียบหลังเอาชนะ เชลซี ในเกมแรก 1-0 ขณะที่ผลงานล่าสุดในลีกเปิดรังเสมอกับ ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้รั้งอันดับที่ 11 ของตาราง จากการเก็บได้ 40 คะแนนหลังผ่าน 28 เกม (ชนะ 12 เสมอ 4 แพ้ 12) สภาพความพร้อมในเกมนี้พวกเขาจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ทอมมี่ สมิธ และ ดาร์ราห์ เลนิฮาน เป็นที่แน่นอนแล้วหลังทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวถึงจบฤดูกาล แต่อย่างไรก็ตามกุนซือใหญ่อย่าง ไมเคิล คาร์ริค จะสามารถเรียกตัว มอร์แกน โรเจอร์ส กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง หลังนักเตะถูกแบนในเกมเลกแรกที่ผ่านมา

เมื่อวัดจากฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม ต้องบอกว่าน่าเซอไพรส์เป็นอย่างมากที่ทาง มิดเดิลสโบรห์ สามารถเก็บชัยชนะมาได้ในเลกแรกที่ทั้งคู่พบกัน เนื่องจาก 5 เกมหลังสุดที่พวกเขาเผชิญหน้ากัน เป็นทางฝั่ง เชลซี ที่เอาชนะได้ถึง 4 เกมก่อนหน้าจะมาพ่ายในนัดล่าสุด ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีผลงานที่ไม่คงเส้นคงวาสำหรับซีซั่นนี้ แต่พวกเขายังมีทีเด็ดซ่อนเอาไว้อยู่มากมาย และเนื่องด้วยคุณภาพของผู้เล่นที่เหนือชั้นกว่า"ทีมโบโร่"อยู่หลายเท่าตัว เราจึงขอมองว่า"ทัพสิงห์บลู"จะตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ผลการแข่งขันที่คาด 3-1