โคเปนเฮเก้น (4-3-3): คามิล กราบาร่า, ปีเตอร์ อันเกอร์เซน, เดนิส วาฟโร่, เควิน ดิคส์, เอเลียส เจลเลิร์ต, วิคเตอร์ คลาสสัน, ราสมุส ฟาลค์, ดิโอโก้ กอนซัลเวส, รูนี บาร์ดจี, โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่, ออเลียส อาชูรี

แมนฯ ซิตี้ (4-1-4-1): เอแดร์สัน, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, โรดรี้, ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด ซิลวา, แจ็ค กรีลิช, เออร์ลิง ฮาลันด์

เจ้าบ้าน โคเปนเฮเก้น หนึ่งในทีมม้ามืดประจำฤดูกาลนี้สามารถทะลุผ่านเข้าสู่รอบนี้หลังเปิดบ้านเฉือน กาลาตาซาราย 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ ส่งผลให้พวกเขาจบอันดับที่ 2 ของกลุ่ม A ขณะที่ผลงานในลีกยังเกาะกลุ่มหัวตารางด้วยการรั้งอันดับที่ 3 จากชัยชนะในเกมล่าสุด อย่างไรก็ตามในเกมนี้พวกจะขาดผู้เล่นหลายคนไม่ว่าจะเป็น ดาวิด โคโชลาว่า, โนอาห์ ซาห์ซาห์, เบียร์เกอร์ เมลิง, ธีโอ แซนเดอร์ และ คูม่า บาบาการ์ นอกจากนี้ ผู้ซัดประตูชัยพาทีมผ่านเข้ารอบมาอย่าง ลูคัส เลราเกอร์ ก็ติดโทษแบน

ขณะที่ผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินทางเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างไม่มีปัญหาอะไร ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า การันตีตำแหน่งแชมป์กลุ่ม G โดยไม่ต้องลุ้นถึงเกมสุดท้าย ส่วนผลงานในลีกยังคงร้อนแรงเช่นเคยหลังได้ตัวของ เควิน เดอ บรอยน์ พวกเขาเปิดบ้านทุบ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ส่งผลให้ทำสถิติคว้าชัย 10 เกมรวดจากทุกรายการ สภาพความพร้อมในเกมนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล พวกเขาไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บหรือคาดโทษแบนแม้แต่รายเดียว นั่นจึงทำให้เกมนี้ทีมแชมป์เก่าพร้อมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม

เมื่อวัดจากผลงานของทั้งสองทีม นี่คือหนึ่งในสนามที่”ทีมเรือใบสีฟ้า”ยังไม่สามารถบุกมาคว้าชัยชนะได้เลยตลอด 2 เกมหลังสุด แต่ในเกมวันนี้คือนิมิตหมายที่ดีกับการยัดเยียดความปราชัยให้แก่ทีมเจ้าบ้านเป็นครั้งแรก เนื่องจากทีมของ เป๊ป ฟอร์มกำลังลุกเป็นไฟ ผู้เล่นทุกคนพร้อมประจำการในทุกตำแหน่ง ในทางกลับกันทางฝั่งเจ้าบ้านมีปัญหาเหลือเกินกับการจัดทัพรับมือยอดทีมจากเกาะอังกฤษ หลังผู้เล่นหลายรายได้รับบาดเจ็บ เชื่อว่าเกมนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไรสำหรับว่าที่จ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก ผลการแข่งขันที่คาด 1-3