มาร์กเซย (4-3-3): โลเปซ, เอมเบมบ้า, สปาร์รักนา, บาร์เลอดี้, เมอร์ลิน, ฮาริท, คอนด็อกเบียร์, อูนาฮี, เอนเดียเย, ฟาริส, โอบาเมยอง

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (4-3-3): ดอนนารุมม่า, เมนเดส, เฮอร์นันเดซ, เบราลโด, เอเมรี่, รุยซ์, วิตินญา, คังอิน, เอ็มบัปเป้, รามอส, เดมเบเล่

เจ้าบ้าน มาร์กเซย เดินทางเข้าสู่เกมนี้ด้วยการไม่ชนะใคร 2 เกมติดต่อกัน เริ่มจากการบุกไปพ่าย บียาร์เรอัล 3-1 ในศึกยูโรปป้าลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมได้สำเร็จ หลังเลกแรกถล่มคู่แข่งมาก่อนถึง 4-0 ขณะที่ผลงานในลีกกลับพลาดท่าบุกไปพ่าย แรนส์ 2-0 ส่งผลให้ปัจจุบันพวกเขารั้งอันดับที่ 7 ของตาราง ด้วยการมี 39 คะแนนจากการ 26 เกม ตามหลัง โมนาโก ในอันดับที่ 4 มากถึง 7 แต้มเข้าไปแล้ว ส่วนสภาพความพร้อมในวันนี้จะยังไม่สามารถใช้งานผู้เล่นตัวหลักหลายรายที่ยังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจากก่อนหน้านี้

ข้ามฝั่งมาที่ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพิ่งเอาชนะ นีซ 3-1 ในฟุตบอลถ้วยภายในประเทศ ขณะที่ผลงานในลีกล่าสุดโชว์ฟอร์มดุ บุกไปถล่ม มงเปลลิเยร์ ด้วยสกอร์ 6-2 ส่งผลให้พวกเขาไม่แพ้ใครมายาวนานมาก ซึ่งครั้งล่าสุดที่ยอดทีมจากกรุงปารีสพ่ายแพ้ต้องย้อนไปในเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีกซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และนับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาลงเล่น 22 นัดจากทุกรายการโดยสามารถคว้าชัยชนะได้มากถึง 16 เกม ขณะที่ความปราชัยครั้งสุดท้ายในลีกเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน หรือประมาณเกือบ 6 เดือนที่แล้ว ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้เดียวในลีกฤดูกาลนี้ของพวกเขาอีกด้วย ปัจจุบันทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ นำฝูงเดี่ยวของตารางด้วยการเก็บไปได้ 59 คะแนนหลังผ่าน 26 เกม (ชนะ 17 เสมอ 8 แพ้ 1) อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าผลงาน-ของ ‘เปแอสเช’ แข็งแกร่งมากในฤดูกาลนี้หลังคว้าชัยชนะ 9 จาก 12 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ