นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (4-3-3): ดูบราฟก้า, เบิร์น, บอตแมน, ชาร์, ทริปเปียร์, ลองสต๊าฟ, กิมาไรส์, วิลล็อค, กอร์ดอน, เมอร์ฟี่, อิซัค

เจ้าถิ่น เชลซี ผลงานล่าสุดบุกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ในเกมลีกมาอย่างน่าเสียดาย โดยที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเปิดรังเฉือนชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2 ในรายการเอฟเอ คัพ รอบที่ 5 ส่งผลให้พวกเขากลับมาคว้าชัยชนะได้หนแรกในรอบ 3 เกม อย่างไรก็ตาม"ทัพสิงห์บลู"เก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก และด้วยผลงานที่ไม่คงเส้นคงวาโดยเฉพาะเกมรุก-รับที่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ของพวกเขามาตลอด ส่งผลให้ในปัจจุบันทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังคงจมอยู่ในอันดับที่ 11 ของตาราง เก็บได้เพียง 36 คะแนนหลังผ่าน 26 เกม (ชนะ 10 เสมอ 6 แพ้ 10) ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งานผู้เล่นหน้าเดิมๆที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เป็นจำนวนมาก

ขณะที่ผู้มาเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลังดวลจุดโทษเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไปได้สำเร็จในเกมเอฟเอคัพที่ผ่านมา ผลงานล่าสุดในลีกเปิดรังถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 ส่งผลให้กพวกเขาแก้ตัวจากความพ่ายต่อ อาณืเซนอล ในเกมลีกก่อนหน้านี้ ปัจจุบัน"ทัพสาลิกาดง"หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 10 ของตาราง ด้วยการมี 40 คะแนนหลังผ่าน 27 เกม (ชนะ 12 เสมอ 4 แพ้ 11) อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงมีปัญหาในแนวรับ โดยเสียไป 13 ประตูจาก 6 เกมหลังสุด ซึ่งความจริงแล้วลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว อาจจะต้องคว้าแชมป์ FA Cup เพื่อคว้าโควต้ารายการยุโรปในฤดูกาลหน้า ซึ่งหากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้นจะเป็นการถอยหลังครั้งใหญ่สำหรับสโมสรที่มีความทะเยอทะยานในช่วงเวลานี้