นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (4-3-3): โป๊ป, ทริปเปียร์, ลาสเซล, ชาร์, ลิฟราเมนโต, กิมาไรส์, ลองสตาฟฟ์, โจลินตัน, อัลมิรอน, อิซัค, กอร์ดอน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): โอนาน่า, ดาโลต์, แม็กไกวร์, ลินเดเลิฟ, ชอว์, แม็คโทมิเนย์, ไมนู, บรูโน่, แรชฟอร์ด, ฮอยลุนด์, กานาโช่

ย้อนไปก่อนช่วงพักเบรคทีมชาติ เจ้าบ้าน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทำสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันยาวนานถึง 7 เกม แต่มันก็จบสิ้นลงหลังเกมที่พวกเขาพ่ายแพ้ต่อ บอร์นมัธ 2-0 อย่างไรก็ตามพวกเขากลับมาจากความพ่ายแพ้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในเกมเปิดรังถล่ม เชลซี 4-1 ก่อนจะบุกไปแบ่งแต้มกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 1-1 ในเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีก ทำให้สถานการณ์ในเวทียุโรปของพวกเขาสั่นคลอนทันที เนื่องจากเกือบจะคว้าชัยชนะได้จนจบเกม แต่ก็มาโดนลูกจุดโทษเจ้าปัญหาเล่นงานในท้ายที่สุด ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้ เอ็ดดี้ ฮาว ยังคงประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหน้าเดิมที่พาเหรดกันพบหมออยู่หลายราย

ขณะที่ผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับเข้าสู่เกมนี้ด้วยผลงานการบุกไปเสมอกับ กาลาตาซาราย 3-3 อย่างเมามันส์ ทำให้สถานการณ์ในกลุ่ม A ของพวกเขาต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์กับเกมนัดสุดท้าย ส่วนผลงานในลีกเกมล่าสุดโชว์ฟอร์มดุ บุกไปไล่ตะบันใส่ เอฟเวอร์ตัน 3-0 ส่งผลให้ลูกทีมของ เอริค เทน ฮาก คว้าชัยต่อเนื่องในลีก 3 เกมติดต่อกัน ขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 6 ของตาราง เก็บได้ 24 คะแนนจาก 13 เกม (ชนะ 18 แพ้ 5) ตามหลัง สเปอร์ส อันดับที่ 5 เพียง 2 แต้มเท่านั้น

เมื่อวัดจากฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม ต้องบอกว่าในปีนี้นั้น "ทัพสาลิกาดง" แข็งแกร่งในเกมเหย้ามาก พวกเขาชนะ 5 จาก 6 เกมในบ้านฤดูกาลนี้ ขณะที่แนวรุกอย่าง แอนโทนี่ กอร์ดอน ฟอร์มเริ่มกลับมาเข้าฝักซัดไปแล้ว 4 ประตูในเกมลีก เช่นเดียวกับ "ทีมผีแดง" แม้พวกเขาจะล้มเหลวในรายการฟุตบอลถ้วย แต่ในพรีเมียร์ลีกนั้นต้องบอกว่าเป็นม้ามืดที่กำลังไต่อันดับขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง ผู้เล่นหลายคนเริ่มเข้าระบบของ เทน ฮาก โดยเฉพาะเกมรับที่ถูกพัฒนาขึ้นมามากจากฟอร์มในช่วงต้นฤดูกาล เชื่อว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่สนุกและสูสีกันมาก ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วถ้าหากกลุ่มผู้เล่นของเจ้าบ้านหายเจ็บกลับมาทุกคน เราคงมองว่าพวกเขาจะเอาชนะได้ แต่ด้วยการขาดหายไปของเหล่าบรรดาผู้เล่นตัวหลัก เราจึงเชื่อว่าเกมนี้จะจบลงด้วยผลเสมอ ผลการแข่งขันที่คาด 2-2