แม้โค้ชเอ็นโซ มาเรสกา เคยเจอแรงกดดันช่วงฤดูกาลแรก โดยเฉพาะจากแฟนบอลที่ยังไม่คุ้นกับฟุตบอลสไตล์เน้นครองบอลแบบอดทน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ นักเตะในทีมต่างเชื่อมั่นในตัวเขาเต็มที่ “เขากำลังสร้างสิ่งพิเศษ” พาล์มเมอร์กล่าวหลังเกม ขณะที่มาโล กุสโต้ ก็ยกย่องว่า “เขาเป็นโค้ชชั้นยอด”

แท็คติกของมาเรสกาในการเจอกับเปแอสเชเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เชลซีเล่นอย่างมีวินัย ดุดัน และเฉียบขาด ใช้เกมริมเส้นฝั่งซ้ายเป็นจุดโจมตีหลัก ทำลายระบบเพรสซิ่งของทีมจากฝรั่งเศสได้อย่างอยู่หมัด

การคว้าแชมป์ครั้งนี้สร้างโมเมนตัมมหาศาลให้กับทีมดาวรุ่งชุดนี้ โดยเชลซีเป็นทีมอายุน้อยอันดับสองในรายการ และการเอาจริงกับถ้วยนี้ส่งผลดีต่อการพัฒนาทั้งแท็คติกและจิตใจทีม

พาล์มเมอร์คือจุดเด่นที่ชัดเจน แต่ผลงานเช่นนี้เป็นผลจากทีมเวิร์กทั้งระบบ ทั้งทีมแมวมองและผู้บริหารชุดปัจจุบันที่เคยถูกวิจารณ์ ก็กำลังได้รับเครดิตที่ควรได้

เจา เปโดร เสริมมิติในแนวรุกอย่างชัดเจน ขณะที่ทีมยังมีนักเตะใหม่อย่าง เจมี่ กิตเทนส์ และ เอสเตวาโอ วิลเลียน ที่กำลังจะเข้ามาเติมความลึกบนริมเส้น ส่วน ลีอัม เดลาป ก็เป็นอีกทางเลือกในเกมสวนกลับ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยังต้องจับตาคือการเจาะเกมรับแนวลึก ซึ่งมาเรสกาหวังใช้ความหลากหลายของเปโดร รวมถึงการเติมเกมของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เข้ามาช่วย

ตลาดนักเตะยังไม่จบ เชลซีมีผู้เล่นส่วนเกินหลายรายที่ต้องปล่อยออก เช่น ราฮีม สเตอร์ลิง, เจา เฟลิกซ์ และอักเซล ดิซาซี เพื่อสมดุลการเงินหลังถูกยูฟ่าปรับจากการละเมิดกฎ FFP

ถึงอย่างนั้น บรรยากาศในทีมเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ลีวาย โคลวิลล์ กล่าวชัดว่า “เราพร้อมแล้ว” เชลซีรู้ว่านี่อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และพวกเขาไม่มีแผนที่จะหยุดแค่แชมป์สโมสรโลกเท่านั้น