สาเหตุหลักมาจากกฎของยูฟ่าที่ห้ามสโมสรที่มีเจ้าของเดียวกัน หรือมีความเชื่อมโยงในระดับ “ควบคุม” ลงแข่งขันในรายการเดียวกัน ซึ่งในกรณีนี้ ยูฟ่าตัดสินว่า จอห์น เท็กซ์เตอร์ ผู้ถือหุ้น 43% ของพาเลซ ผ่านบริษัท Eagle Football Holdings ยังคงมีอิทธิพลควบคุมสโมสร แม้เจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีอำนาจชี้ขาด และไม่มีส่วนร่วมในการบริหารสโมสร

ปัญหาซับซ้อนขึ้นเมื่ออีกสโมสรในเครือของเท็กซ์เตอร์ คือ โอลิมปิก ลียง ก็ได้สิทธิ์ไปเล่นยูโรปาลีกเช่นกัน และจบอันดับสูงกว่าในลีก ยูฟ่าจึงเลือกให้ลียงได้สิทธิ์แทน

พาเลซยังพลาดโอกาสสำคัญในการแก้ไขโครงสร้างการถือหุ้นภายในเส้นตาย 1 มีนาคม ขณะที่น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แม้มีปัญหาลักษณะเดียวกัน (เจ้าของทีมเป็นเอวานเจลอส มารินาคิส ซึ่งถือหุ้นโอลิมเปียกอสด้วย) แต่ฟอเรสต์เลือกวางหุ้นไว้ใน “blind trust” เพื่อตัดสิทธิ์ควบคุมอย่างโปร่งใส

รายงานระบุว่า ฟอเรสต์ยังได้ส่งจดหมายถึงยูฟ่าแสดงความกังวลเรื่องพาเลซ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการกดดันให้ยูฟ่าตัดสินใจเร็วขึ้น

พาเลซพยายามแก้เกมในช่วงท้าย โดยตกลงขายหุ้นของเท็กซ์เตอร์ให้กับนักลงทุนชาวอเมริกันคนใหม่มูลค่าเกือบ 190 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่ทันกาล เพราะยูฟ่ายืนยันคำตัดสินเดิม ขณะที่ความหวังสุดท้ายว่าลียงจะถูกตัดสิทธิ์เพราะปัญหาการเงินในฝรั่งเศสก็พังทลาย หลังจากลียงชนะอุทธรณ์และรอดตกชั้นจากลีกเอิง

พาเลซจะได้ไปเล่นในยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีกแทน ซึ่งรายได้และเกียรติยศน้อยกว่ามาก และขณะนี้คาดว่าสโมสรเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก (CAS)

เรื่องนี้สะท้อนปัญหาซับซ้อนจากการถือหุ้นข้ามสโมสร ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและคู่แข่งใหม่ในวงการฟุตบอลอังกฤษระหว่างพาเลซกับฟอเรสต์ในอนาคต.