ดาวยิงกัปตันทีมรายนี้ยิงประตูแรกในนาที 45 จากการจ่ายของออเรเลียง ชูอาเมนี เพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริด ก่อนจะมาจ่ายให้ ไมเคิล โอลิเซ ยิงประตูที่สองในนาที 84 หลังฉกบอลจากความผิดพลาดของโรบิน ค็อคได้อย่างเฉียบขาด

เยอรมนีมีโอกาสหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงต้นเกมที่จูเลียน นาเกลส์มันน์ กุนซืออินทรีเหล็กมองว่าน่าจะขึ้นนำถึง 3-0 ภายใน 6 นาที แต่กลับโดนลงโทษจากความผิดพลาด

คาริม อเดเยมี ถูก VAR ย้อนคำตัดสินจุดโทษ พร้อมโดนใบเหลืองฐานพุ่งล้ม ส่วนประตูของเดนิซ อุนดาฟ ก็ถูกยกเลิกจากจังหวะฟาวล์ของนิกลาส ฟูลครูก

ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ยิงชนเสา และอเดเยมีถูก ไมค์ เมญ็อง ผู้รักษาประตูเป้าหมายของเชลซี เซฟไว้ถึงสามครั้ง

ด้านฝรั่งเศสเองก็มีโอกาสบวกประตูเพิ่มเช่นกัน มาร์คุส ตูราม ยิงชนเสา ส่วนเอ็มบัปเป้หลุดเป้าและถูก มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเกิน เซฟอย่างยอดเยี่ยมในหลายจังหวะ

"เราควรจะนำ 3-0 ตั้งแต่ต้น แต่กลับพลาด และพอเสียประตูเราก็เสียสมดุลไป" โจชัว คิมมิช กัปตันทีมเยอรมนีให้สัมภาษณ์หลังเกม

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือฝรั่งเศสกล่าวชื่นชมเมญ็องว่า “เขาคือแนวรับสุดท้ายที่ยอดเยี่ยม ช่วยเราไว้ได้เยอะมาก”

ฝรั่งเศสจบเนชันส์ลีกด้วยอันดับ 3 ส่วนเยอรมนีแพ้ติดต่อกัน 3 นัดก่อนลุยยูโรในบ้าน ขณะที่รอบชิงชนะเลิศระหว่างสเปนกับโปรตุเกสจะมีขึ้นคืนวันอาทิตย์ เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย.