เอ็นดอย แข้งทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นฮีโร่ของทีม หลังฉวยโอกาสจากจังหวะบอลหลุดในกรอบเขตโทษก่อนซัดเข้าไปไม่พลาด ส่งผลให้โบโลญญาคว้าสิทธิ์ไปเล่นยูโรปาลีกในฤดูกาลหน้า ส่วนมิลานยังต้องลุ้นโควตายุโรปต่อไป

เกมนี้โบโลญญาเล่นอย่างกล้าหาญ โดยมีลูอิส เฟอร์กูสัน กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์เป็นกัปตัน เฟอร์กูสันเคยค้าแข้งกับแฮมิลตันและอเบอร์ดีนในสกอตแลนด์ และมีจังหวะยิงไกลเฉียดคานในครึ่งแรก

มิลานเกือบขึ้นนำก่อนพักครึ่ง แต่ลูคัช สโกรุปสกี้ นายทวารโบโลญญาโชว์เซฟสองจังหวะซ้อน โดยเฉพาะลูกยิงระยะเผาขนของลูก้า โยวิช

ชัยชนะครั้งนี้ยังเป็นเกียรติประวัติแรกของวินเชนโซ่ อิตาเลียโน่ กุนซือวัย 47 ปี ที่เคยพลาดในรอบชิงมาแล้วสามครั้งกับฟิออเรนตินาในช่วงสองปีที่ผ่านมา

“เราสมควรได้รับมัน โดยเฉพาะหลังจากที่เราเล่นได้ยอดเยี่ยมในคืนนี้ มันเป็นฟอร์มการเล่นที่มหัศจรรย์” อิตาเลียโน่กล่าว “ฤดูกาลที่น่าเหลือเชื่อของเราถูกเติมเต็มด้วยถ้วยใบนี้ แฟนๆ ของเราสมควรได้รับมัน”

อิตาเลียโน่เพิ่งเข้ามาคุมทีมเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แทนที่ติอาโก้ ม็อตต้า ที่ย้ายไปยูเวนตุส ก่อนที่ม็อตต้าจะถูกปลดในเดือนมีนาคม

ถ้วยใบนี้ถือเป็นการหยุดยุคครองแชมป์ของยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, นาโปลี และลาซิโอ ซึ่งผลัดกันคว้าแชมป์มาตั้งแต่ปี 2008

ด้านเซร์คิโอ คอนไซเซา กุนซือมิลาน ซึ่งกำลังอยู่ภายใต้ความกดดันหลังทีมรั้งอันดับ 8 ในเซเรีย อา กล่าวหลังเกมว่า “ผมมีหลายอย่างให้คิด ทั้งสิ่งที่เราทำดีและพลาดในเกมนี้ เราจะจบฤดูกาลด้วยศักดิ์ศรี และค่อยคุยเรื่องอนาคตของผมอีกครั้ง”