อังเคิลแบร์: ‘พรีเมียร์ลีก’ มีลุ้นส่ง 7 ทีมลุย UCL ซีซั่นหน้า

ทีมอันดับที่ 5 จาก พรีเมียร์ลีก จะมีลุ้นได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือไม่ และมีสิทธิ์ที่จะได้โควต้าถึง 7 ที่นั่งหลังจบฤดูกาลนี้หรือเปล่า ลองมาติดตามกันที่นี่ไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของสโมสรจากอังกฤษ ที่ต่างก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการยุโรป ไม่ว่าจะเป็น แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรป้าลีก หรือ คอนเฟอเรนซ์ลีก ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์ใน ยูฟ่า ของพวกเขาพุ่งพรวดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 ในเวลานี้เป็นที่เรียบร้อย
นั่นก็หมายความว่าสโมสรที่จบในอันดับที่ 5 จาก พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้จะได้สิทธิ์ลงเล่นในรอบลีกเฟสของถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรปในฤดูกาลหน้าทันที เหมือนกับที่ โบโลญญ่า และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้สิทธิ์ไปในฤดูกาลนี้
แล้วไอ้ค่าสัมประสิทธิ์ที่จะบ่งชี้ว่าอันดับที่ 5 ที่จะได้โควต้านี้ไป เขาคำนวณกันอย่างไรล่ะ
ทาง ยูฟ่า จะคำนวณว่า 2 ลีกใดที่จะได้รับโควต้าพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ลีก เพิ่ม โดยจะบวกคะแนนสัมประสิทธิ์ตามผลงานของสโมสรจากแต่ละลีกทั้งจากใน แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรป้าลีก และ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก ซึ่งหมายความว่าแต่ละลีกจะต้องแข่งขันกันเองเพื่อไต่อันดับที่เรียกว่า ‘ค่าสัมประสิทธิ์สโมสรสัมพันธ์’
ชัยชนะของแต่ละสโมสรในรายการระดับสโมสรของ ยูฟ่า ในฤดูกาลนี้จะทำให้แต่ละลีกได้ 2 คะแนน ส่วนการเสมอจะได้ 1 คะแนน และไม่มีคะแนนเลยสำหรับความพ่ายแพ้
นอกจากนี้แล้ว จะมีการให้คะแนนโบนัสตามอันดับของสโมสรที่จบจากในรอบลีกเฟสแยกไปตามแต่ละรายการ ยกตัวอย่างเช่น การจบอันดับสูงสุดใน แชมเปี้ยนส์ลีก จะได้ 12 คะแนน ในขณะที่จบอันดับสูงสุดของ ยูโรป้าลีก จะได้ 6 คะแนน และทีมอันดับสูงสุดใน คอนเฟอเรนซ์ลีก จะได้ 4 คะแนน
รวมถึงจะมีการให้คะแนนโบนัสเพิ่มเติมสำหรับการเข้าถึงแต่ละรอบตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายขึ้นไป โดยจะแบ่งเกณฑ์ไปตามแต่ละรายการเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแล้ว คะแนนของสโมสรที่เข้าร่วมทั้งหมดจากแต่ละลีกจะถูกนำมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันของ ยูฟ่า ในฤดูกาลนี้ เพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยของค่าสัมประสิทธิ์ระดับสโมสร
ซึ่งถ้าดูแยกไปตามแต่ละรายการก็จะพบว่าสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก นั้นต่างก็ทำผลงานกันได้น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวในปีนี้
เริ่มจากรายการใหญ่สุดที่ ลิเวอร์พูล ได้เป็นแชมป์รอบลีกเฟส แต่ก็ตกรอบ 16 ทีมไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงมี อาร์เซนอล และ แอสตัน วิลล่า ที่ติดเป็น 1 ใน 8 ทีมแรก และผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นที่เรียบร้อย
ตามมาด้วยรายการลำดับรองที่มีทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยกันทั้ง 2 ทีม และท้ายที่สุดก็คือ เชลซี ที่คว้าทั้งแชมป์รอบลีกเฟสของ คอนเฟอเรนซ์ และผ่านเข้ารอบไปด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ พรีเมียร์ลีก เก็บคะแนนมาได้ 169.750 คะแนน และมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดคือ 24.250 โดยที่เหลือสโมสรลงเล่นในรายการยุโรปมากกว่าลีกอื่น ๆ อยู่ที่ 5 สโมสรจาก 7 สโมสรในช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งทำให้พวกเขามีโอกาสสูงมากที่จะคว้าโควต้าพิเศษในเวลานี้
ส่วนตามหัวเรื่องที่บอกว่ามีโอกาสที่จะได้ไป แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 7 สโมสร แน่นอนว่าเป็นไปได้ครับ แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผลงานในรายการยุโรปของพวกเขาเองในฤดูกาลนี้
สำหรับโควต้าที่ 6 นอกเหนือจาก 5 โควต้าแรกที่กล่าวถึงกันไปแล้ว ก็คือการได้สิทธิ์จากการเป็นแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเองครับ ซึ่งยังคงเหลืออีก 2 ทีม โดยที่ อาร์เซนอล ก็คงไม่น่าจะหลุดจากท็อปโฟร์แล้ว และก็ต้องไปลุ้นให้ วิลล่า ที่ยังอยู่ในอันดับที่ 8 ของลีก ก้าวไปถึงแชมป์ให้ได้ในบั้นปลาย
ส่วนโควต้าสุดท้ายก็จะมาจากการคว้าแชมป์ ยูโรป้าลีก ที่ยังเหลือ 2 ตัวเต็งอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส ที่จับสลากแยกไปคนละสายและจะมาเจอกันอีกทีก็คือในรอบชิงชนะเลิศเลย ซึ่งก็นับว่ามีโอกาสที่สูงกว่าในถ้วยหูโต
สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่า สโมสรจากอังกฤษจะได้โควต้ากี่ที่นั่ง แต่สำหรับแฟนบอล พรีเมียร์ลีก ก็คงจะดีไม่น้อย ถ้าได้เห็นสโมสรที่เราคุ้นเคยไปโลดแล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก แบบเต็มพิกัดถึง 7 ทีมในฤดูกาลหน้า
เขียนโดย The Lite Team.
อังเคิลแบร์

