มิดไมล์ : คิดงั้นไหม ? ‘แต้มเดียว’ ไม่เสียหาย

แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคว้า 1 คะแนนสำคัญมาได้จากการเสมอกับ อาร์เซน่อล แต่ถ้าดูเกมโดยรวมแล้ว พวกเขาสมควรเป็นฝ่ายชนะซะมากกว่า ซึ่งนัดนี้เชื่อได้เลยว่า แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต่างเชียร์ ‘เพื่อนรัก’ ให้คว้าชัยแมตช์นี้ แต่การแบ่งแต้มกันไปก็ดูไม่เสียมากกันหรือเปล่า ?
สาวก ‘หงส์แดง’ ใครที่ได้ดูเกมนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ใช่น้อย หลังเจ้าบ้านอย่าง ยูไนเต็ด โดนทีมผู้มาเยือนบุกอยู่ฝ่ายเดียว ‘ปืนใหญ่’ นั้นคุมสถาการณ์ได้อยู่หมัด จนทีมของ รูเบน อโมริม นั้นแทบโงหัวไม่ขึ้น
แต่ถ้าดูในอีกแง่มุมคือ ‘ผีแดง’ เล่นเกมรับกันได้อย่างเหนียวแน่น ไม่เปิดโอกาสให้ยักษ์ใหญ่แห่งลอนดอนเหนือ เข้ามาถึงพื้นที่สุดท้ายได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันลูกเตะมุมอันเป็นทีเด็ดคู่แข่ง ไม่มีความผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แม้ว่าเจ้าบ้านจะเล่นเกมรับได้ดี มีวินัย มีสมาธิแบบสุด ๆ จนลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า หาทางเจาะเข้าไปทำประตูแบบจ่อ ๆ ไม่ได้ ซึ่งผมก็ขอชื่นชมในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ ‘ปีศาจแดง’ต้องปรับปรุงโดยด่วนคือ การขึ้นเกม เพราะพวกเขาเสียบอลกันง่ายเหลือเกิน ต่อบอลกันไม่กี่ครั้งก็ถูกตัด ถูกแซะ ถูกแงะ จนถูกแย่งคืนไปได้ ทำให้อันตรายในเกมรุกนั้นหายไปอยู่มากโข
อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่แย่ก็ต้องมีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะฝั่งเจ้าบ้านนั้นกลับได้เปรียบขึ้นมาซะอย่างนั้นก่อนหมดครึ่งแรก หลัง บรูโน่ แฟร์นานเดส กองกลางกัปตันทีมตัวหวัง ยิงฟรีคิกเข้าไปแบบสุดสวย จนผู้รักษาประตูจอมหนึบของ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ อย่าง ดาบิด ราย่า ที่ต่อให้ขับ F-16 มาก็บินไปรับไม่ทัน
พอเข้าสู่ช่วงกลางครึ่งหลัง อาร์เซน่อล กลับมาทำประตูตีเสมอได้จาก ดีแคลน ไรซ์ ที่ปั่นเข้าอย่างสุดสวย ต่อให้ อังเดร โอนาน่า นายทวารผู้ใช้เท้าเก่งมากกว่ามือ ติดปีกอีกสัก 10 อัน ก็คงเซฟลูกนี้ไม่ได้ ก็ต้องยอมรับกันไปว่า มันเป็นประตูที่สุดสวยจริง ๆ
ซึ่งหลังจาก ‘ปืนโต’ ได้ประตูตีเสมอ ผมก็เริ่มคิดแล้วว่า โมเมนตัมของเกมจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า ? ผู้มาเยือนเครื่องจะติดเลยไหม ? พวกเขาจะโหมกระหนำบุกเพื่อคว้า 3 คะแนนในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ออกไปได้หรือเปล่า ? คำถามในหัวเริ่มตีกันไปหมด
ที่ไหนได้เกมรุกของพวกเขานั้นกลับไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรเลย แถมกลับอ่อนแรงลงด้วยซ้ำ และอย่างที่ทุกคนรู้กัน เมื่อทีมของนายใหญ่ชาวสแปนิช ไม่มีกองหน้า ประสิทธิภาพในการเข้าทำก็ลดน้อยลงเยอะ
ทำให้ ‘เรด เดวิลส์’ นั้นกล้าที่จะเล่นเกมรุกมากขึ้น และทำได้ดีเลยนะ หาจังหวะจบสกอร์ได้หลายครั้ง แต่ก็ต้องยกเครดิตให้กับช็อตซุปเปอร์เซฟของ ราย่า ซึ่งไม่รู้พี่แกไปกินอะไรมาในครึ่งหลัง ทำไมถึงโคตรเหนียวได้ขนาดนี้ บอลจะเข้าไปแล้ว ก็ยังบินมาควักออกจากเส้นไปซะอย่างนั้น ผมถึงขึ้นตะโกนออกมา ‘โอ้ มาย ก๊อด’ กันเลยทีเดียว
หลังจบผมพอชื่นชมแผงเกมรับของ อโมริม ในเกมนี้หน่อยนะครับ พวกเขาเล่นกันได้ดีทุกคนเลย ไม่เว้นแต่ปราการหลังดาวรุ่งที่ถูกส่งลงเป็นตัวรองอย่าง อายเดน เฮฟเว่น ส่วนมิดฟิลด์ตัวรับอย่าง กาเซมิโร่ ก็คอยช่วยทำลายจังหวะคู่แข่งได้ดี ทำให้แบ่งเบาภาระของแนวรับไปเยอะเลย
ปัญหาที่ ยูไนเต็ด ยังคงแก้ไม่ตกคือ พวกเขาใช้โอกาสเปลืองมากลูกพี่ ไร้ซึ่งความเด็ดขาดใด ๆ คู่แข่งเล่นพลาดก็แล้ว ถวายพานให้ก็แล้ว บรรจงไหลบอลให้แล้วแท้ ๆ แต่ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดันจับบอลซะอย่างงั้น ‘พ่อคุณเอ้ย !!’ ทำให้ไม่ซัดเปรี้ยงเดียวให้มันจบ ๆ ไปเลย มาจับบอลทำไมก่อน เหลือจะเชื่อจริง ๆ
สุดท้ายแล้วก็แบ่งแต้มกัน ทำให้ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 14 มี 34 คะแนนเท่ากับ ท็อตแน็ม ฮ็อตสเปอร์ อันดับที่ 13 แต่อย่าดูที่ประตูได้เสียเลย เห็นแล้วมันเศร้า
ส่วน อาร์เซน่อล เก็บได้เพิ่มอีก 1 แต้ม ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล อยู่ 15 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 แมตช์ แล้วมาดูกันว่า ช่วงโค้งสุดท้าย ‘ปืนใหญ่’ จะไล่บี้ ‘หงส์แดง’ ได้มากน้อยแค่ไหน หรือพวกเขาจะเป็นพระรองปีที่ 3 ติดต่อกัน
ถ้าในมุมมองผมแล้ว ยูไนเต็ด ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวาไม่ได้ บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะเล่นควาย ๆ ก็ควายมาทั้งคอก ซึ่งเรื่องนี้ต้องปล่อย รูเบน อโมริม ได้ทำงานอีกหน่อยกระมัง แต่ก็ไม่รู้ว่า ‘ผีแดง’ จะอดทนได้อีกนานแค่ไหน ก็รอดูกันต่อไปในฤดูกาลหน้าละกันนะ
เขียนโดย LS Sport
มิดไมล์

