โอมาร์ มาร์มูช ถูกจับตามองอย่างมากจากผลงานส่วนตัวของเขาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วกับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต โดยทำไปทั้งสิ้น 17 ประตู 6 แอสซิสต์ จาก 29 นัดในเวทีบุนเดสลีกา แต่ว่าหลายทีมยังคงกังวลว่าเขาจะเป็นผู้เล่นประเภท ‘เก่งแค่ปีเดียว’ เลยยังไม่มีใครกล้าลงทุน

แต่แล้วครึ่งซีซั่นแรกเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้สะแด่วยิ่งกว่าเดิม บนแผ่นดินเยอรมันเขาทำไป 20 ประตู 14 แอสซิสต์ จาก 26 นัด แล้วยิ่งการที่เป็นแข้งทีมชาติอียิปต์ ยิ่งทำให้เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ สตาร์หมายเลขหนึ่งของ ลิเวอร์พูล

ด้วยปัญหาหลายอย่างของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ส่งผลให้พวกเขาต้องรีบทุ่มเงินมหาศาลในการปรับปรุงทีมช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือ โอมาร์ มาร์มูช ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 59 ล้านปอนด์

4 เกมแรกของแข้งวัย 26 ปีในเครื่องแบบสีฟ้า อาจจะยังไม่มีส่วนร่วมกับประตู แต่เห็นได้ชัดว่าการเลี้ยงบอลของเขานั้นมาถูกที่ถูกเวลา หลังจากที่ปีกในทีมทั้ง แจ็ค กรีลิช, เฌเรมี่ โดกู หรือ ซาวินโญ่ ไม่สามาถก้าวขึ้นมาทดแทน ริยาด มาห์เรช ที่ย้ายออกจากทีมไปตั้งแต่ซัมเมอร์ 2023

แต่แล้วในเกมกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เขาก็สามารถบันทึกชื่อตัวเองเข้าไปอยู่ในใจของเหล่าสาวก ‘เดอะ ซิติเซ่น’ ได้อย่างเต็มอก โดยสามารถแฮททริคได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 14 นาที

เริ่มตั้งแต่การกระดกบอลข้ามหัว มาร์ติน ดูบราฟก้า ในนาทีที่ 19 ต่อด้วยการรับบอลแถว ๆ เส้นกรอบเขตโทษก่อนจะยิงเลียดเสียบเสาแรกในอีก 5 นาทีต่อมา แล้วในนาทีที่ 33 ก็มาซัดเต็มข้ออีกลูกให้ทีมได้เปรียบแบบสุด ๆ ก่อนที่ช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ จะมาได้ประตูปิดกล่องจาก เจมส์ แม็คอาตี้

ภายใต้ฟอร์มที่ย่ำแย่ของของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขายังคงเกาะพื้นที่ท็อปโฟร์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น การลุ้นแชมป์อาจจะดูเป็นเรื่องยากเกินไป เพราะตามหลัง ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซนอล อยู่พอสมควร แต่ถ้าเอาแค่กลับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าเพื่อที่จะได้เสริมทัพในตลาดซัมเมอร์ได้อย่างเต็มที่ ขอบอกเลยว่าไม่ยากจนเกินไป

แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ได้เห็นในเกมล่าสุดกับ นิวคาสเซิล คือนักเตะป้ายแดงของพวกเขาล้วนทำผลงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น อับดูโกดีร์ คูซานอฟ ที่ป้องกันเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น รวมไปถึง นิโก้ กอนซาเลซ ที่คุมเกมแดนกลางได้หลังจากที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขาด โรดรี้ ไปตั้งแต่ช่วงต้นของซีซั่นนี้

เรื่องน่าสนใจของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตอนนี้คือพวกเขาสามารถลองทีมประหนึ่ง พรีซีซั่น ได้แบบย่อม ๆ และการที่พวกเขากำลังจะพลาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เชื่อมั่นได้เลยว่า ฤดูกาลหน้า พวกเขาจะกลับมาเป็น ‘เรือใบรบติดจรวดสีฟ้า’ ในฤดูกาลหน้า แบบที่ไม่มีใครหยุดได้ แล้วทีมอื่น ๆ ก็ได้แค่แย่งที่ 2 กันเหมือนที่เคยเป็น

เขียนโดย The Lite Team.

38 Drinks