แต่ถ้าหากคุณถลกหนังตาขึ้นมาดูสักนิด คุณจะพบว่า ยังมีอีก 4 สโมสรที่พร้อมเป็นม้ามืดเข้ามาช่วงชิงโทรฟี่สูงสุดแห่งเกาะอังกฤษเช่นกัน ซึ่งเรามาดูกันไปทีละประเด็นว่า ทำไม อาร์เน่อ ชล็อต ยังไม่ควรหยุดบิณฑบาตรและ Keep Going ไปกับการรักษามาตราฐานของตนเอง

• ประเด็นที่ 1 การกลับมาของตัวผู้เล่นบาดเจ็บในแคมป์ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล หลังจากที่พวกเขาขาดคีย์แมนสำคัญไปเนิ่นนาน โดยเฉพาะแนวรับที่ถูกทะลวงบั้นท้ายไปถึง 21 ประตู ทั้งที่เพิ่งเลื้อยตูดมาได้แค่ครึ่งทางของซีซั่น เทียบกับปีก่อนที่พวกเขาเสียไป 29 ประตู และถูกยกยอจนน้ำลายเต็มผืนคีย์บอร์ดว่า "มีแนวรับที่แข็งแกร่งที่สุดในลีก"

เห็นได้ชัดเลยว่า กาเบรียล ซาลิบา และ เบน ไวท์ คือสองเสาเอกประจำเมือง และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ก็จัดเป็นตัวทดแทนที่ส่งผลกระทบต่อทีมของ มิเกล อาร์เตต้า

• ประเด็นที่ 2 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หนึ่งในทีมม้ามืดที่ไม่มีหมอดูคนไหนในประเทศโลกที่ 3 แถวนี้กล้าเอ่ยปากว่า จะกลายเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์เล็ก ๆ กับเขาด้วย ซึ่ง "เจ้าป่า" อาจจะยัดลูกบอลไปกองก้นตาข่ายได้แค่ 33 เม็ด แต่ว่าพวกเขาพกการป้องกันระดับราโชมอน เสียน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในลีก น้อยเสียยิ่งกว่าแนวรับมูลค่าร้อยล้านของ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จะว่าไปแล้ว คริส วู้ด กองหน้าตัวเก๋าชาวนิวซีแลนด์ นี่แมร่งคมกริบยิ่งกว่า นิโกลาส แจ็คสัน หรือ ดาร์วิน นูนเญซ ด้วยซ้ำไป โดยเพชฌฆาตวัย 33 ขวบ กดไปแล้ว 14 ประตู รั้งอันดับที่ 4 ในตารางดาวซัลโวลีกร่วมกับ โคล พาลเมอร์ ไอ้เด็กหนาวเหน็บแห่งกรุงลอนดอน

• ประเด็นที่ 3 เชลซี ของ เอ็นโซ มาเรสก้า เจ้าอาวาสแห่งวัดเขาอีโต้ เสริมขุมกำลังแกร่งด้วยการซัมม่อน เตรโวห์ ชาโลบาห์ กองหลังเด็กปั้นที่ปล่อยยืมให้กับ "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แต่พอกลับมาแค่นัดแรกก็แสดงศักยภาพเสียจน อักเซล ดีซาซี่ กับ เบอนัวต์ บาเดียชิล ออกอาการเหมือนคนถูกดึงขนจมูกด้วยความรุน 46 ริกเตอร์ เพราะดูเหมือน เชลซี จะเจอคนที่ใช่ในการมาสืบทอดตำแหน่งเจ้าตำรับเกมรับอย่าง ติอาโก้ ซิลวา ตำนานชาวบราซิลที่เพิ่งย้ายออกไปเมื่อปีก่อน

อย่างเดียวที่ต้องกลัวคือ ความผีเข้าผีออกของ โรเบิร์ต ซานเชซ และ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น สองนายทวารที่ควรถูกทนายสั่งฟ้องศาลสัก 30 สำนวน เพราะคนหนึ่งก็ออกลูกเฟอะฟะ ในขณะที่อีกคนก็ตัดสินใจช้า (ฉิบหาย) ในการออกบอลแต่ละครั้ง

• ประเด็นที่ 4 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซูเปอร์โค้ชมือทองแห่งค่าย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำการระเบิดคลังและเทกระจาดเม็ดเงินไปจำนวน 130 ล้านยูโร เป็นอย่างน้อย กระชากตัว 3 ผู้เล่น มาแทนไอ้พวกคนไข้ติดเตียงในโรงพยาบาลศิริราช ประกอบไปด้วย อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, วิตอร์ เรยส์ และ โอมาร์ มาร์มูช โดยเฉพาะรายสุดท้ายที่กำลังโชว์ฟอร์มกระฉูดแตก กระซวกตาข่ายไปแล้ว 20 ประตู ถวายพานให้เพื่อนอีก 11 แอสซิสต์ กับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ต้นสังกัดปัจจุบัน

หมายเหตุสักเล็กน้อย ระหว่างที่ผมกำลังปั่นต้นฉบับนี้อยู่ โอมาร์ มาร์มูช กำลังตรวจร่างกายและยังไม่ชูเสื้ออย่างเป็นทางการ แต่ขอเอาขนตูดมายืนยันว่าไม่น่ามีปัญหาครับ

และนี่คือ 4 องค์ประกอบสำคัญที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนวงการซาวน์เอ็นจิเนียร์ เอ้ย! การลุ้นแชมป์ฟุตบอลอังกฤษ ทั้งนี้ ผมมิได้มีเจตนารมณ์ดูหมิ่น อาร์เน่อ ชล็อต หรือ ลิเวอร์พูล แต่อย่างใด แต่ในเมื่ออะไรก็ไม่แน่นอนในวงการลูกหนัง ก็ต้องบอก “ซีซั่นนี้แมร่งมันส์ฉิบหายเลยโว้ยยย!”

เขียนโดย Eden Lamb

The Lite Team