ช่วงนั้นเองที่ อาร์เซนอล เริ่มจะดูมีลุ้นมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่ปรับร่วมลอนดอนเหนือได้สำเร็จ ทำเอา มิเกล อาร์เตต้า ถึงกับออกมาประกาศกร้าวว่าพร้อมจะขึ้นไปลุ้นแชมป์กับ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน

ซึ่งหากกุนซือชาวสเปน จะทำอะไรแบบนั้นได้ เงื่อนไขเดียวคือต้องสวดมนต์ให้ ‘หงส์แดง’ สะดุด ในขณะที่ตัวเองจะทำแต้มหล่นอีกไม่ได้เลย

แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็อาจทำการแข่งขันในซีซั่นนี้ไม่น่าจะมีอะไรต้องลุ้นอีกหนึ่งครั้ง

ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงขึงใส่ เบรนท์ฟอร์ด โดยมีโอกาสมากกว่า 30 ครั้ง แต่ว่าทำอะไรไม่ได้ ชนิดที่แทบจะเข้าตำรา ‘เก่งแต่ป้อ ล่อไม่เป็น’ เดชะบุญที่วันนี้วิญญาณสุดยอดกองหน้าเข้าสิง ดาร์วิน นูนเญซ ทำ 2 ประตูในช่วงทดเวลา โยนความกดดันให้กับทีมที่ตามหลังมาได้สำเร็จ

สถานการณ์ตรงนี้สวนทางกับ อาร์เซนอล สุด ๆ เพราะเมื่อคืนนี้ทัพ ‘ปืนใหญ่’ ชิงความได้เปรียบเหนือ แอสตัน วิลล่า ไปก่อนจากลูกยิงของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้ เมื่อโดนฝั่ง แอสตัน วิลล่า ตามตีเสมอได้สำเร็จ

หนำซ้ำช่วงท้ายเกม ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ ก็เป็นลูกยิงที่ไปแฉลบมือพวกเดียวกันเอง นอกจากนั้นยังมีจังหวะที่บอลผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูไปแล้ว แต่ว่าเทพีแห่งโชคไม่เข้าข้างเมื่อมีเสาเข้ามาบดบัง

คือถ้าจะบอกว่า ลิเวอร์พูล ‘ดวงแชมป์’ ก็คงไม่ผิด ส่วนทาง อาร์เซนอล นั้น ‘วาสนาไม่ถึง’ เห็นทีจะใช่เช่นกัน

มองไปดูตารางคะแนนตอนนี้คือทีมชื่อดังจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ฉีกคะแนนหนีอีกครั้งออกไปเป็น 6 คะแนน อีกทั้งยังมีแมตช์ในมืออีกหนึ่งเกม แล้วด้วยลูกได้เสียที่เหนือกว่าทีมที่ตามมาอยู่ 8 ประตู นั่นเท่ากับว่าต่อให้พวกเขาจะแพ้ 2 แมตช์ติด ก็ยังมีโอกาสที่จะยังยืนบนตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างมั่นคง

เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากการที่ ‘เครื่องจักรสีแดง’ จะได้สิทธิสะดุดแล้ว ดูเหมือนว่า อาร์เซนอล ก็ไม่ได้จะพร้อมเข้าเบรคชนะรวดเป็น 10 นัด เหมือนกับที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยทำได้มาก่อน เพราะว่าทั้งฤดูกาลนี้พวกเขาทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ชนะใน พรีเมียร์ลีก 3 นัดติดต่อกันได้ 2 ครั้ง

ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่ผ่านมาแล้วนั้น คงต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล จับถ้วยพรีเมียร์ลีก ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ชนิดที่ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทางลูกหนังขึ้นมา เชื่อว่าแรงกระแทกจากทั่วทุกสารทิศ คงโคจรมาถึงเหล่า ‘เดอะ ค็อป’ แบบชนิดที่ว่าไม่กล้ามีหน้าไปสู้ใครได้เลย

เขียนโดย The Lite Team

38 Drinks