หลายคนรู้จักแข้งวัย 37 ปี สมัยเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งสถานะของเขาในตอนนั้นเป็นเพียงแค่ตัวเลือกในเกมรุก แต่แท้จริงแล้วเขาอยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมาย ซึ่งปัจจุบันเส้นทางการค้าแข้งของเขาจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามอ่านกันต่อที่นี่ได้เลยครับ

ประสบการณ์สุดพิเศษ

ก่อนจะไปติดตามเรื่องของ เปโดร กันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ

แข้งเลือด ‘กระทิงดุ’ รายนี้อาจไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก เนื่องจากอยู่ในทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์ลูกหนังทั้งกับ บาร์เซโลน่า ชุดต่างดาว และทีมชาติสเปนชุดครองโลก

เปโดร คว้ามาแล้วทั้ง ฟุตบอลโลก, ยูโร, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 3 สมัย, ลาลีกา 5 สมัย, โคปา เดล เรย์ 3 สมัย รวมไปถึงรายการอื่น ๆ ทั้ง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ หรือ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2015 ซึ่งก็ได้เหรียบรางวัลเพิ่มเติมทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก

ในปี 2020 เขาได้มาเล่นให้กับ โรม่า แต่ว่าแค่ปีเดียว เขาก็ได้เก็บกระเป๋ามาอยู่กับอริร่วมเมืองอย่าง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกับ โชเซ่ มูรินโญ่

เปโดร พูดถึงเรื่องนี้ว่า “มันเป็นอดีตไปแล้ว แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในเวลานั้น ผมต้องขอบคุณที่พวกเขายอมปล่อยให้ทีมคู่แข่งอย่าง ลาซิโอ้”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ตลอดอาชีพค้าแข้งของสามารถคว้าแชมป์ได้มากกว่า 25 ครั้ง โดยเฉพาะ แชมเปียนส์ลีก และฟุตบอลโลก”

“แน่นอนว่าผมอยากจะคว้าถ้วยรางวัลกับ ลาซิโอ้ เพราะผมเคยคว้าแชมป์มาโดยตลอด ยกเว้นตอนที่เล่นในอิตาลี”

“ที่นี่เป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เช่นเดียวกันกับ เชลซี และ บาร์เซโลน่า ซึ่งสำหรับผมแล้วการคว้าแชมป์เป็นสิ่งสำคัญ และเราจะมุ่งมั่นให้สุด ๆ ในฤดูกาลนี้ ผมอยากจะอยู่ที่นี่ไปจนจบซีซั่น แล้วเราค่อยมาดูกัน”

เปโดร กล่าวเสริมว่า “ผมมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ตอนนี้ผมอายุมากที่สุดในทีม แต่ก็สนิทกับผู้เล่นดาวรุ่ง นี่คือหน้าที่ของผม ในการให้คำปรึกษาพวกเขา”