คำพูดจากใจของ ‘เจ้าชายแห่งกรุงโรม’
ดานิเอเล่ เด รอสซี่ เข้ามารับงานต่อจาก โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสามารถพาทีมจบอันดับที่ 6 ของฤดูกาลที่แล้ว
อย่างไรก็ตามการที่เขาทำผลงานในซีซั่นนี้ได้อย่างย่ำแย่ ส่งผลให้บอร์ดบริหารต้องไล่เขาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของแฟนบอล ซึ่งเจ้าตัวจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างนั้น ตามอ่านกันต่อที่นี่ได้เลยครับ
เกินใจจะรับไหว
อดีตนักเตะทีมชาติอิตาลีวัย 41 ปี อยู่กับ โรม่า มาตั้งแต่ปี 2000 โดยลงสนามไปมากกว่า 600 นัดในทุกรายการ ก่อนจะอำลาทีมในปี 2019 และไปแขวนสตั๊ดตามฝันที่ โบค่า จูเนียร์ ในประเทศอาร์เจนติน่า
หลังจากแขวนสตั๊ดเขาเริ่มทำงานโค้ชครั้งแรกกับ สปอล เมื่อเดือนตุลาคม 2022 ก่อนที่จะผลงานได้ไม่เป็นที่น่าประทับใจจนโดนปลดในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
ซึ่งเขาต้องว่างงานเกือบหนึ่งปี ก่อนที่จะกลับมากู้วิกฤตของ โรม่า ที่ทาง โชเซ่ มูรินโญ่ ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ และมีปัญหากับทางบอร์ดบริหาร จนต้องอำลาทีมในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ซึ่งถึงแม้ว่าในฤดูกาลที่แล้วเขาจะพาทีมขึ้นมาจบอันดับที่ 6 ได้ไปเล่น ยูโรป้า ลีก ในซีซั่นนี้ แต่ว่าผลงานการออกสตาร์ท 4 นัดแรกถือว่าน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก โดยยังไม่ชนะแม้แต่เกมเดียว แบ่งเป็นเสมอ 3 แพ้ 1
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรได้ประกาศว่า “ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมชุดใหญ่แล้ว สโมสรตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของทีมให้กลับมาในตำแหน่งที่พวกเราต้องการโดยเร็วที่สุด ในช่วงเวลาที่ฤดูกาลเพิ่งเริ่มต้น”
“เราขอขอบคุณ ผู้วึ่งจะอยู่ในหัวในของพวกเราตลอดไป และขอขอบคุณสำหรับหลายเดือนที่ผ่านมาด้วยความทุ่มเท”
ล่าสุดสื่ออย่าง กัลโช่ เมอร์ซาโต้ ได้ระบุว่า เด รอสซี่ แทบจะร้องไห้ในห้องล็อกเกอร์ และพูดออกมาพร้อมกับอารมณ์ที่อ่อนไหวว่า “หลังจากนี้ผมจะไม่กลับมาที่ โรม่า อีก”