สภาลูกหนัง: นั่นก็เหมือนพ่อแม่ แต่นี่ก็เหมือนว่าที่เมีย!
มุมมองความสำเร็จในอาชีพของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณคาดหวังความก้าวหน้าในสายงานของตนเองมากน้อยแค่ไหน นักฟุตบอลเองก็เป็นเช่นนั้น…
ที่ ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว คุณจะได้มีโอกาสพูดคุยกับไอดอลที่เคยดูผ่านจอโทรทัศน์ อาทิ หลุยส์ ฟิโก้, ราอูล กอนซาเรซ, อิเกร์ กาซิยาส หรือถ้าจะเอาใหม่แกะกล่องหน่อยก็จะเป็น เซร์จิโอ รามอส หรือ ลูก้า โมดริช นี่ยังไม่นับรวมนักเตะที่ถูกจัดเป็นประเภท “ขึ้นหิ้งตลอดกาล” เหล่าแข้งทองที่ถูกอุ้มชูเหนือศีรษะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ทศวรรษ เฉกเช่น อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่, เฟเรนซ์ ปุสกัส, ซีเนอดีน ซีดาน หรือยอดดาวเตะบัลลงดอร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังโลดแล่นอยู่บนพื้นหญ้าในดินแดนซาอุดิอาระเบีย
นอกจากนี้ ยังมีเกียรติยศมากมายที่ถูกแปะไว้บนฝาผนัง และบันไดในแต่ละขั้นของสโมสร เพื่อกระทืบเท้าตอกย้ำความเป็นจ้าวแห่งยุโรป 15 สมัย และมีห้องที่เก็บโทรฟี่รวมกันกว่า 136 ถ้วยรางวัล จากตลอดระยะเวลา 122 ปีที่ผ่านมา
คิดดูแล้วกันนะครับว่าจะมีทีมอะไรที่เป็นแชมป์มากกว่าอายุสโมสร ? แม้ว่าบางถ้วยจะไม่ถูกนับเป็นแชมป์เมเจอร์ก็ตามที
เอาล่ะ ที่ผมปูเรื่องราวมาทั้งหมดสามพารากราฟนี้ เพียงเพื่อจะบอกว่า ผมเข้าใจ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ แบ็คขวาตัวทำเกมประจำค่าย ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล นั่นเอง
มองจากกระจกบ้านตัวเองไปถึงห้องแต่งตัวขอบรั้วแอนฟิลด์ ยังดูออกว่า เทรนท์ กระสันอยากย้ายไปร่วมทัพ ‘ราชันชุดขาว’ เต็มแก่ ยิ่งในช่วงที่ผมกำลังปั่นต้นฉบับอยู่นี้มีข่าวคราวว่า เจ้าตัวถึงขั้นเดินไปเคาะก็อก ๆ ที่ออฟฟิศของผู้บริหารสโมสร และแสดงเจตนารมณ์พลางตัวสั่นงึก ๆ ว่า “ขอผมย้ายไปแบบไร้ค่าตัวได้ไหมลูกพี่ ?”
สำหรับคนที่ไม่รู้ คือลูกหม้อรายนี้กำลังจะหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล นั่นเอง แต่ถ้าถามถึงความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวที่มา…ผมให้แค่หนึ่งในสามก็แล้วกัน เพราะต้นทางมันมาจากฝั่งประเทศสเปน อย่าง มาร์ก้า ที่พร้อมจะอวยแชมป์ยุโรป 15 สมัยอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
ทาง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวเทียร์สูงสายแท็ปอิน (หยอก ๆ) ก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย ถึงกับสะบัดตูดจากเตียงนอนขึ้นมา Tweet ข้อความว่า “บัดนี้ ลิเวอร์พูล ได้ยื่นสัญญาให้กับเหล่าสามนักเตะคนสำคัญพิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นอกจากแบ็คขวาสเก๊าเซอร์แล้ว ก็จะเป็นฝั่งของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ สองคีย์แมนที่น่าจะสำคัญกว่า เทรนท์ (มั้ง)
กระแสที่ออกมาในระยะหลัง ดูเหมือน ซาล่าห์ จะหาจุดกึ่งกลางที่ลงตัวได้แล้ว ในขณะที่พี่ใหญ่อย่าง ฟาน ไดจ์ค ก็ให้สัมภาษณ์แสดงความจริงใจที่มีต่อสโมสร จะขาดเพียงก็แต่ อีเทรนท์ เนี่ยแหละที่ยังเงียบกริบ ไม่ยอมปริปากบอกเหมือนอย่างคนอื่นเขา ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้สำหรับคนที่อยากย้ายไปหาความท้าทายใหม่ พวกเขาเลือกที่จะค่อย ๆ คิดในมุมมืดของตนเอง ดีกว่าผลีผลามพูดอะไรไม่เข้าหูแฟนบอล มิเช่นนั้น การจากลาอาจไม่งดงามอย่างที่มันควรจะเป็น
อย่าลืมว่า ปัจจุบัน เทรนท์ ก็อายุอานามปาไป 26 ปีแล้ว การต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ครั้งนี้ อาจมีค่าเทียบเท่ากับการปิดประตูถาวรใส่ เรอัล มาดริด เพราะเกมจิตวิทยาล่าสุดของ เรอัล มาดริด ก็ปล่อยข่าวเชิงกดดันว่า “เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค น่ะ ถึงฟรีก็ไม่เอา!!” เหมือนกำลังสื่อถึงการที่พวกเขาต้องการเสริมทัพเพื่ออนาคตมากกว่าแก้ไขปัญหาระยะสั้นกับนักเตะที่วัยเข้าสู่เลข 3
กระนั้น ผมมองในมุมคนนอกที่ไม่ได้เชียร์ใครเลยในสองสโมสรนี้ หาก เทรนท์ เลือกขยายสัญญาที่มีอยู่ออกไป อย่างน้อยสโมสรที่ปลุกปั้นตัวเขามาตั้งแต่ประถม ก็ยังพอได้เงินกำไรไปซื้อของกินเล่นแถวตลาดพลูบ้างนั่นเอง แต่ถามว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ จะยอมเสียค่าโง่แบบเคสของ เอเด็น อาซาร์ กับ เชลซี ในมูลค่า 120 ล้านยูโร แบบไม่รวมแอดออนอีกเหรอ? เชื่อเถอะว่าไม่มีทาง ขุนนางใหญ่ของที่นี่ไม่ใช่ตระกูล เกลเซอร์ นะคร้าบบ
นี่แหละสาเหตุของความยืดเยื้อไม่รู้จบ สุดท้ายแล้วคนหนักใจที่สุดคือ ตัวนักเตะเองที่ต้องเลือกแล้วระหว่าง ลิเวอร์พูล ที่เปรียบเสมือนคุณพ่อคุณแม่ผู้ดูแลฟูมฟัก หรือ เรอัล มาดริด ว่าที่เจ้าสาวสุดสวยผู้เลอโฉมในอนาคตของตัวเขาเอง!
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง