สภาลูกหนัง: ครึ่งทางของการแข่งขัน ทรงนี้โลกไม่สงบสุขแน่นวล!
กราบสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน เหลืออีกเพียง 72 ชั่วโมง ก็จะได้ฤกษ์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 อย่างเป็นทางการ วันนี้จึงอยากมาแวะเวียนวิเคราะห์ความเป็นไปในช่วงที่เปรียบเสมือน “ครึ่งทาง” ของศึกพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2024/25
เริ่มต้นที่ทีมจ่าฝูง ฟอร์มร้อนแรงแบบฉุดไม่อยู่ กระซวกไส้คู่แข่งทีมน้อยใหญ่เป็นว่าเล่น ราวกับเป็นขนมกรุบยามบ่ายของพวกเขา ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต หรือที่แฟนบอลเรียกอย่าง Stay Humble ว่า “ฮะโหน่ง มาแว้ว”
พวกเขาโชว์ฝีไม้ลายตีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เกมรุกต่อบอลกันเพียงไม่กี่จังหวะก็ถึงหน้าปากประตูคู่แข่ง และวิ่งไล่ฟัดในเวลาไม่กี่วินาทีทุกครั้งยามเสียบอล ถ้าจะบอกว่า แชมป์ลีกปีนี้คงตกเป็นของ “พลพรรคหงส์แดง” แบบนอนมาตั้งแต่ศาลายายันหัวลำโพง ก็คงจะไม่ผิดนัก นี่คือทีมที่เพียบพร้อมในทุกขุมกำลังและเสบียงการรบ! ด้วยเหตุนี้ กระผมจึงขอข้ามไปพูดถึง อาร์เซน่อล แบบให้หายอิจฉา “สาวกเดอะค็อป” เลยแล้วกัน
มิเกล อาร์เตต้า ทำผลงานแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งคงพอพูดได้ว่า มาจากความสะเพร่าของตนเอง เพราะสองฤดูกาลที่ผ่านมานั้นต้องใช้คำว่า “โชคดี” ที่ไม่มีตัวบาดเจ็บในกำลังหลักแดนหลัง แต่พอเข้าสู่ซีซั่นนี้ การขาดหายไปบางช่วงของ กาเบรียล “รัศมีแข” มากัลญาเอส ส่งผลชัดเจนว่า อาร์เซน่อล ยังต้องการลูกกระสุนสำรองที่หนักแน่นพอ เพื่อยกระดับทีมไปอีกขั้น ต้องอย่าลืมล่ะว่า อาร์เตต้า กำลังเข้าสู่ปีที่ 6 ของตนเอง และมันหมดเวลา “Trust The Process” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อีกจุดหนึ่งสำคัญคือ การควานหาตำแหน่งกองหน้าหมายเลข 9 ตัวจริง แม้ว่า กาเบรียล เฆซุส จะเลิกใช้หัวแม่โป้งแกว่งทวนแม่น้ำในเรือลำใหญ่ลำนี้ แต่เขาก็เพิ่งจะแสดงผลงานที่จับต้องได้ดีขึ้นเพียงแค่ 2 เกมหลังสุดเท่านั้น ผมถือว่ายังไม่มีอะไรการันตีความแน่นอนในนัดถัดไป
มาถึงอันดับที่ 3 ในตารางคะแนน เชลซี เป็นหนึ่งในสโมสรที่เซอร์ไพร์สที่สุดสำหรับผม นับตั้งแต่กวักมือเรียก เอ็นโซ มาเรสก้า เจ้าอาวาสแห่งวัดจิ้งจอกสยาม มาบิณฑบาตที่สนามแสตมฟอร์ด บริดจ์ ทีมของพรี่ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ ก็กลายร่างเป็นสิงโตผู้กระหายเหยื่อ วิ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งและท่าสวยซะด้วย วาดลวดลายการเล่นที่เป็นระบบระเบียบ ต่างจากสมัยของ เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งขุมกำลังเด็กวัยทีนที่ “ป๋าท็อดด์” แกสั่งสมมาจากแถวรัชดาตั้งแต่นมยังไม่ตั้งเต้า บัดนี้ได้กลายเป็นสาวสะพรั่งเต็มวัย พร้อมคว้าหัวใจแฟนบอลในทุกแมตช์การแข่งขัน
ผมไม่คิดว่า เชลซี จะเสริมทัพใครในตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ครับ เพราะเอาแค่ที่มีก็น่ากลัวมากพอแล้ว ด้วยอายุเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดจากบรรดาทุกสโมสรในประวัติศาสตร์เกาะอังกฤษ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า พวกเขาจะกลายเป็นตัวเต็งในการขับเคี่ยวไล่ล่าแชมป์อย่างเต็มตัวเป็นแน่แท้ ส่วนตอนนี้ก็…ไม่น่าพลาดท็อปโฟร์เป็นอย่างน้อย!
ทีมใหญ่ทีมต่อไป มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าประจำซีซั่นก่อน และเพิ่งจะคว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาไม่นาน แต่กลับถูกอาการบาดเจ็บพรากแข้งคีย์แมนหลักไปทั้งแผง โดยเฉพาะในแนวรับ ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง แอสตัน วิลล่า เอ้ย! แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของซูเปอร์โค้ชมือทอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เพิ่งจะระบายอารมณ์โกรธแค้นกับหนังหัวตัวเองไป จนกลายเป็นมีมดังทั่วโลกโซเชี่ยล อย่างที่เจ้าตัวบอกไว้เลย “เขาไม่ได้ต้องการแข้งรายใหม่มาเสริมบารมี แต่ต้องการคนเก่ากลับมาจากโรงพยาบาลมากกว่า…”
โดยรวมแล้ว ต่อให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจปลด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขึ้นมา ก็ไม่น่ามีใครเก่งกาจ หรืออาจหาญพอมาจะมาสืบสานงานของแกหรอก เชื่อว่าสโมสรคงวางแผนเสริมทัพไว้ราว 2-3 ดีลในช่วงหน้าหนาวนี้ ซึ่งแคนดิเดตที่น่าสนใจก็จะมี มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ในฐานะกุญแจสำคัญของระบบการเล่นเพื่อทดแทนการขาดหายไปของ โรดรี้ มิดฟิลด์บัลลงดอร์ชาวสเปน
ปิดท้ายที่ทีมที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ก็แหม…อุตส่าห์ตัดสินใจปลด เอริค เทน ฮาก กุนซือขวัญใจมหาชนชาวบ้านทั้งที คนที่มาใหม่อย่าง รูเบน อโมริม ดันพาทีมไต่จากอันดับ 13 ร่วงไปอยู่อันดับ 14 พร้อมกับปัญหาลากยาวตีคู่กันมากับ มาร์คัส แรชฟอร์ด สุภาพบุรุษเต็มตัว ผู้งอแงกับการไม่ถูกใส่ชื่อลงเล่น 1 นัด (อีหยังวะ!?)
ยิ่งในเกมล่าสุดกับ วูล์ฟแธมป์ตัน ที่โดนปั่นโค้ง ๆ จากลูกเตะมุมเสียบเข้าตาข่ายไปแบบ “อีกแล้วเหรอ?” บอกเลยว่าเหนื่อยใจแทน “แฟนบอลปีศาจแดง” เป็นอย่างยิ่ง คนที่ยิ้มมุมปากกระชากใจสาวก็มีเพียง “บักแรชฟอร์ด” คนเดียวนั่นแหละ แบบนี้ รูเบน อโมริม คงได้แต่แอบคิดในใจนะครับว่า “กูอยู่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เหมือนเดิมซะดีกว่ามั้ง!”
จะว่าไปนี่ก็เป็นเพียงไม่กี่ปีนะครับ ที่ทั้งนักวิจารณ์และแฟนบอลคิดตรงกันหมด ผลงานในสนามไม่มีสวนทางกับสภาพทีมแต่ละทีมสักนิดเดียว ราวกับว่าพวกเราพอรู้บทสรุปของซีซั่นนี้แล้วโดยปริยาย…ก็ถ้า ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ลีก ส่วนตัวคิดว่า Facebook น่าจะ Server ล่มได้เหมือนกัน!
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง