The Blue House: โคล พาลเมอร์ หนึ่งในความสำเร็จสูงสุดของทีมโค้ช
วินาทีนี้คงไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า ‘ไอ้เด็กหนาวเหน็บ’ โคล พาลเมอร์ เพลย์เมกเกอร์ของ เชลซี อีกแล้ว หลังจากกดไปอีก 2 จุดโทษ ช่วยให้ทีมบุกไปชนะ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส คาบ้านแบบสุดมันส์ 3-4
ประตูของเขาถีบบั้นเด้าของ ‘สิงห์บลู’ ให้ทะยานขึ้นไปส่ายสะโพกที่ตำแหน่งรองจ่าฝูง ตามหลัง ลิเวอร์พูล เพียง 4 คะแนน แม้จะแข่งมากกว่า 1 นัด แต่ต้องยอมรับเลยว่า เชลซี กลายเป็นทีมม้ามืดตัวอันตรายที่สุดสำหรับเหล่า เดอะ ค็อป ในชั่วโมงนี้แล้ว
ความเยือกเย็นในการสังหารจุดโทษลูกที่ 2 ของเขา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สามารถแบกรับความกดดันได้ดีกว่าผู้เล่นทั่วไปในเกมบิ๊กแมตช์ การยิงลูกปาเนนก้า (Panenka) ที่ดูคลาสสิค แต่ก็ไม่ได้พยายามเหนือชั้น ยิ่งทำให้ไอ้หนูนี่ถูกพูดมากขึ้นไปอีก ทำเอา เจมี่ เร้ดแนปป์ กูรูนักวิจารณ์ และอดีตยอดนักเตะคนดัง ถึงกับออกปากว่า เขาทำทุกอย่างได้เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก
สถิติการยิงจุดโทษทั้งหมด 12 ครั้ง กลายเป็นประตูทั้งหมด 100% ชวนให้แฟนบอลนึกถึงตำนานสโมสรอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ใส่สกอร์รอได้เลยหลังจากผู้ตัดสินเป่านกหวีดในกรอบเขตโทษ แต่ความแตกต่างคือ โคล พาลเมอร์ จะมีความนุ่มนวล เปี่ยมไปด้วยทักษะ และเทคนิคตามแบบฉบับเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 แบบดั้งเดิม ในขณะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด จะดุดัน และทรงพลังกว่ายามที่บอลออกจากเท้า
เขาย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันปิดตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ของปี 2023 โดยลงสนามให้ เชลซี ไป 62 นัด ยิง 36 ประตู และจ่าย 21 แอสซิสต์ ซึ่งถ้าหากเราคิดแบบละเอียดเข้าไปอีก จำนวนนาทีต่อ 1 ประตู ที่เขาจะเสกสรรค์ให้ทีมได้นั้นอยู่ที่ราว 87 นาทีต่อประตู
แบบนี้ก็คงพอตะโกนใส่โทรโข่งได้แล้วว่า 42.5 ล้านปอนด์ ที่โอนผ่านพร้อมเพย์ให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ นี่มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
แล้วพอมานึกได้ว่า ค่าตัวของเขาเป็นการแบ่งเงินส่วนหนึ่งที่ได้รับมาจากการขาย เมสัน เมาท์ ไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในราคา 60 ล้านปอนด์ รวมแอดออน และ เชลซี มีแนวโน้มสูงที่จะได้ตัว เจดอน ซานโช่ ปีกตัวยืมที่ฟอร์มร้อนแรงเป็นอีกี้ไม่เป็นสก๊อย แต่เล่นเข้าขากันกับไอ้หนูหนาวเหน็บ ในวงเงิน 25 ล้านปอนด์นั้น ต้องบอกว่าทีมแมวมอง และทีมเจรจาของสโมสรควรได้รับ พิซซ่า ปาร์ตี้ เป็นอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมา ‘สิงห์บลู’ ไม่เคยขาดฮีโร่บนพื้นหญ้าเป็นเวลานาน ในช่วงยุก 90s คงหนีไม่พ้นความมหัศจรรย์ของ จิอันฟรังโก้ โซล่า ชายผู้ได้รับการยอมรับจากบรมครู เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่าทำให้งานของเขานั้นยากเสมอ แต่สุดท้ายแฟนบอลก็มาว้าวกับตำนานจาก “ยุคสมัยกลาง” อย่าง เอเด็น อาซาร์ ที่หลายคนยกให้ปีกชาวเบลเยี่ยมรายนี้ เหนือกว่าแข้งทีมชาติอิตาลีเสียอีก
แล้วพอมาตอนนี้ล่ะ? ดูเหมือน โคล พาลเมอร์ จะสามารถสร้างอิมแพ็คให้สั่นสะเทือนในระดับริกเตอร์เดียวกับ เอเด็น อาซาร์ เลยนะ ต่างกันแค่สไตล์การเล่นกับบอลก็เท่านั้น
จากคนที่ไม่เคยมีใครคาดคิด และผิดหวังกับดีลสุดท้ายในปีที่ 2 ของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เพราะ ณ วันนั้น โคล พาลเมอร์ ถูกดูแคลนเป็นแค่ดาวรุ่งไม่มีที่ไปจากสโมสรแชมป์เก่า คุณจะไปรบในสมรภูมิให้ได้รับชัยชนะได้อย่างไร หากอาวุธในมือเป็นแค่ของมือ 2 ที่ใช้งานได้ไม่ดีเท่ากับ ฟีล โฟเด้น หรือ แจ็ค กรีลิช ที่เปรียบดั่งขีปนาวุธหนักในวันนั้น แม้แต่ นิโกลาส แจ็คสัน ที่ย้ายมาในตลาดเดียวกัน ยังถูกจับตามองมากกว่าจากผลงานที่โดดเด่น และเฉิดฉายในช่วงปรีซีซั่น
เพียงซีซั่นเดียว เหล่าแข้งประถมของ เชลซี เริ่มกลายเป็นเด็กหนุ่มมัธยมที่พร้อมขับเคี่ยวไล่ล่าแชมป์ร่วมกับเด็กมหาวิทยาลัยอื่นเสียแล้ว และแน่นอนมันจะยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เพราะอายุเฉลี่ยภายในทีมก็น้อยที่สุดในบรรดาทุกทีม จากประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ
การสร้างทีมโดยไม่มีจุดศูนย์กลางที่ใครคนใดคนหนึ่ง นักเตะทุกคนต้องทดแทนกันได้นั้นย่อมเป็นเรื่องดี แต่ถ้าคุณมียอดฝีมืออย่าง พาลเมอร์ นั้นการให้เขาได้เล่นอย่างอิสระ ก็เป็นที่มาแล้วว่า เขาคือ ‘World Class’ อย่างแท้จริง
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง