สภาลูกหนัง: ‘ปืนใหญ่’ รีบไต่จี้จ่าฝูง! เปิดรังชน ‘ผีแดง’
เริ่มต้นเดือนธันวาคมกันด้วยโปรแกรมกลางสัปดาห์กันเลยนะครับ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเดือนที่มีฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ให้รับชมกันมากที่สุดของฤดูกาลเลยก็ว่าได้ และทางเราก็จะเปิดหัวกันด้วยคู่ของ อาร์เซนอล ที่จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หากนับย้อนกลับไปสัก 20 ปีก่อน สมัยที่ตัวผู้เขียนยังเป็นวัยรุ่นหนุ่มกระทง ศึกระหว่างทั้ง 2 สโมสรนี้นับเป็นคู่รักคู่แค้นที่เบียดแย่งแชมป์ลีกกันอย่างเมามันส์ เรียกได้ว่าเจอกันเมื่อไร ‘เดือด’ กันทุกครั้งไม่สนว่าจะเป็นสนามไหนก็ตาม
แต่เวลาก็ได้ล่วงเลยไป ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป ทั้งการผลัดใบของ 2 กุนซือแห่งยุคอย่าง อาร์เซน เวนเกอร์ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทั้งตัวผู้นำของทีมที่มีลูกดุดันอย่าง ปาทริค วิเอร่า และ รอย คีน รวมถึงสถิติต่าง ๆ ที่เคยคู่คี่สูสี กลับกลายมาเป็นว่า ‘เดอะ กันเนอร์ส’ นั้นขโยกอยู่ฝ่ายเดียวเลยในระยะหลัง ๆ
มิเกล อาร์เตต้า อาจจะยังไม่เคยพาทีมสัมผัสกับคำว่า ‘แชมเปี้ยน’ ได้เลยแม้แต่หนเดียวตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่ารักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้ดีในช่วง 2-3 ปีหลังสุด และยังมีสถิติที่ยอดเยี่ยมกับการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการไม่เคยแพ้คาบ้านเลยแม้แต่หนเดียว และยังเป็นการเอาชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกมที่ผ่านมา
ด้วยสถานการณ์ที่กำลังวิกฤตของแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในระยะนี้ ที่ฟอร์มหลุดไปดื้อ ๆ แพ้ 4 เกมติดในลีก ทำให้ อาร์เซนอล ได้ขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับ 2 ของตารางคะแนน และตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล อยู่ถึง 9 คะแนน
ย้ายข้ามมายังฟากของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือมาเป็น รูเบน อโมริม และได้ลองหยั่งเชิงกันไปแล้ว 3 เกม โดยที่พาทีมชนะมาได้ถึง 2 เกมติด นับเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ไม่เลวเลยทีเดียว
เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส ปรับเปลี่ยนให้ขุนพล ‘ปีศาจแดง’ มาเล่นในระบบ 3-4-3 ตั้งแต่ในเกมแรกที่เสมอกับ อิปสวิช ก่อนที่จะ ‘เวิร์ค’ ขึ้นตามลำดับจากในเกมที่เอาชนะมาได้ทั้ง โบโด กลิมท์ และ เอฟเวอร์ตัน
โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่ทุบลูกทีมของ ฌอน ไดช์ ไปแบบสิ้นสภาพด้วยสกอร์ 4-0 ถือเป็นการได้เห็นความลงตัวและความเข้าใจกันที่มากขึ้นกับระบบการเล่นของนักเตะ ยูไนเต็ด ชุดนี้
แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เป็นแค่การเจอเปิดบ้านกับทีมที่เป็นรองมาก ๆ เท่านั้นเอง ถ้าเล่นไม่ได้แบบนี้ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วล่ะ
ส่วนสถานการณ์ของพวกเขาก็ค่อย ๆ เขยิบขึ้นมาทีละก้าวสองก้าว จากที่เป็น ‘จ่าฝูงแดนใต้’ มานาน ก็เริ่มขยับมาอยู่ในครึ่งบนของตารางได้สักที ก็ต้องชื่นชมแหละครับว่าตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็น รุด ฟาน นิสเตลรอย จนมาถึง อโมริม มันก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจริง ๆ
สำหรับเกมที่จะถึงในคืนวันพุธนี้ ส่วนตัวแล้วยังมองว่า ‘ปืนใหญ่’ ยังคงเหนือกว่าอยู่พอสมควร ซึ่งมั่นใจว่าหลาย ๆ คนก็มองแบบเดียวกัน ทั้งในการได้เล่นใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รวมถึงความเข้าใจในเกมของนักเตะ และระหว่างนักเตะกับผู้จัดการทีม
แต่ก็ยังประมาท ‘ผีแดง’ ไม่ได้เช่นกัน ที่ไม่รู้ว่าระบบการเล่นของหัวเรือคนใหม่จะได้ผลมากหรือน้อยแค่ไหนกับการออกไปเยือนกรุงลอนดอนในหนนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น แฟนบอลของทั้ง 2 ทีมก็คงอยากที่จะเห็นทีมรักของตัวเองกลับไปชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันอีกสักหนแหละครับ เหมือนกับราว 2 ทศวรรษก่อน ที่สลับกันพาตัวเองไปฉลองกับความสำเร็จบนรถบัสแห่รอบเมืองช่วงท้ายฤดูกาล
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.