นับเป็นการพบกันหนแรกของของอดีตมือขวา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่าง มิเกล อาร์เตต้า และ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่สั่งสมประสบการณ์ในถิ่น เอติฮัด ก่อนที่จะออกมาโบยบินด้วยตัวเอง และพาลูกทีมของตัวเองมาห้ำหั่นกันบนเวที พรีเมียร์ลีก

ทางด้านของ เชลซี ก็มาดีกว่าที่คิดนะสำหรับในฤดูกาลนี้ ซึ่งลงเล่นในลีกไปแล้ว 10 เกม พลาดพลั้งปราชัยไปแค่ 2 เกมเท่านั้นและเป็นการแพ้ให้กับ ‘บิ๊กทีม’ อย่าง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล 

ส่วนฟากของ อาร์เซนอล ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป๋ได้หรือเปล่านะ เพราะเพิ่งแพ้มา 2 เกมติดต่อกันในเกมลีกกับ นิวคาสเซิล และในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-0 

ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเขาอยู่ในอันดับที่ติดกันบนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นทางฟากของ ‘สิงห์บลูส์’ ที่เหนือกว่าด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าอยู่ 2 ประตูเท่านั้นเอง

มาดูในเรื่องความพร้อมของตัวผู้เล่นกันบ้างนะครับ ซึ่งกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างก็ผ่านการลงเล่นเกมยุโรปมาด้วยกัน เพียงแต่เป็นคนละถ้วย คนละวัน แม้ว่า ‘ปืนใหญ่’ จะลงเล่นไปก่อนหนึ่งวัน แต่ก็จัดตัวผู้เล่นแบบเต็มพิกัด ต่างจากทาง ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ ที่หมุนเวียนตัวผู้เล่นแทบจะยกชุด

มาเรสก้า ก็น่าจะกลับมาจัดเต็มในเกมนี้ โดยจะได้ เจดอน ซานโช่ กลับมามีชื่อจากการที่ได้พักกับการเจอต้นสังกัดที่แท้จริง รวมถึง โคล พาลเมอร์ ก็มีสิทธิ์ที่จะกลับมาเช่นเดียวกัน ซึ่งในรายหลังนั้นเจ็บจากในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อสัปดาห์ก่อน 

ส่วนทาง อาร์เตต้า ก็พอใจชื้นขึ้นมาบ้างแล้ว หลังจากที่ มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาลงสนามได้แล้วในเกมกลางสัปดาห์ แต่ก็คาดว่าจะต้องนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองไปก่อน รวมถึง ดีแคลน ไรซ์ ที่เจ็บกระดูกเท้าแตก ก็อาจจะฝืนกลับมาลงเล่นในเกมนี้เช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นแล้ว ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, คีแรน เทียร์นีย์ และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี จะกลับมาอีกทีก็หลังจากช่วงพักเบรกทีมชาตินู้นเลย

ก่อนจะไปติดตาม ‘บิ๊กแมตช์’ คู่นี้กันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ

มาคุยกันถึงเรื่องสถิติเฮดทูเฮดของทั้ง 2 ทีมกันบ้างนะครับ ซึ่งในระยะหลัง ๆ นี่ก็เป็นทาง อาร์เซนอล ที่ฟาดเรียบมาโดยตลอด ซึ่งพวกเขาสามารถเอาชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก

ถ้าหากใครจำกันได้เมื่อฤดูกาลก่อนที่ เชลซี เปิดบ้านขึ้นนำไปก่อน 2-0 แต่ด้วยความผิดพลาดของ โรเบิร์ต ซานเชส ทำให้ทีมเยือนกลับมาอยู่ในเกมได้ ก่อนที่ เลอันโดร ทรอดซาร์ จะมาตีเสมอเป็น 2-2 ในช่วงท้ายเกม ก็ถือเป็นโอกาสที่น่าเสียดายสำหรับทีมฝั่ง ‘สีน้ำเงิน’ ที่เกือบจะยุติความพ่ายแพ้เอาไว้ได้อยู่แล้วเชียว

และพอเหลือบไปดูสถิติเพิ่มเติมแล้ว น่าตกใจยิ่งกว่าที่ ‘สิงห์บลูส์’ เอาชนะได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 9 เกมหลังสุดบนลีกสูงสุด โดยที่หนล่าสุดก็ย้อนกลับไปช่วงต้นฤดูกาล 2021-22 สมัยที่ โธมัส ทูเคิล ยังคุมทีมอยู่นู้นเลยครับ

อย่างไรก็ตามแต่ ‘เดอะ กันเนอร์ส’ แพ้จากการลงเล่นเป็นทีมเยือนใน พรีเมียร์ลีก มา 2 เกมติดต่อกันแล้วนะครับ หรือถ้านับรวมทุกรายการก็แพ้ไปถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุดเลย มีโผล่ชนะมาเกมเดียวคือเกม คาราบาวคัพ ที่เจอทีมรองบ่อนอย่าง เปรสตัน เมื่อช่วงสิ้นเดือนตุลาคม

ทั้งนี้แล้ว สถิติก็เป็นแค่ตัวเลขที่ผ่านมาแหละครับ สุดท้ายก็ต้องมาวัดกันที่หน้างาน ซึ่งดูจากฟอร์มโดยรวมของทั้ง 2 ทีมในซีซั่นนี้ก็บอกเลยว่าใส่กันไม่มียั้งแน่นอน และเป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนบอลไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

เขียนโดย LS Sport 

ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง