The Blue House: 45 นักเตะเชลซี ใครไปต่อ ใครพอแค่นี้!?
หากเราสังเกตดี ๆ เชลซี ชุดนี้มีการวางแผนเรื่องระบบการเล่น และการเลือกซื้อนักเตะที่เป็นระเบียบอย่างมาก โดยเฉพาะค่าเหนื่อยและสเป็คการเล่นค่อนข้างเฉพาะเจาะจงเลยล่ะ
ผมชอบแนวทางเรื่องหนึ่งของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ และ เบห์ดาด เอกบาลี่ คือ พวกเขาไม่ใช่ “สายเปย์” จนทำให้เพดานค่าเหนื่อยของสโมสรอยู่ในระดับที่มั่นคงพอสมควร รวมถึงการใช้งานนักเตะอายุน้อยที่ต้องอยู่ในระบบโครงสร้างอันเหมาะสม ซึ่งในบทความนี้ คุณจะได้เห็นในอีกมุมมองที่ต่างจากสิ่งที่สื่อนำเสนอมา ไปดูกันครับ
🧤 ผู้รักษาประตู:
✅️ โรเบิร์ต ซานเชซ (26) £60k
✅️ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น (22) £50k
✅️ มาร์คัส เบตติเนลลี่ (32) £35k
🏫 ลูคัส เบิร์กสตรอม (21) £5k
⏳️ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (29) £150k
⏳️ ยอร์เย เปโตรวิช (24) £25k
⏳️ กาเบรียล สโลนิน่า (20) £3k
⏳️ ไมค์ เพนเดอร์ส (19) £0k
ตำแหน่งนี้ชัดเจนมากว่า ลูคัส เบิร์กสตรอม ที่หมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้ อาจย้ายออกไปหาความท้าทายที่อื่น เพราะ เชลซี มองว่า มาร์คัส เบตติเนลลี่ ยังดีกว่าในตัวเลือกลำดับที่ 3 ด้วยซ้ำ ซึ่ง เบตติเนลลี่ เนี่ยยังเหลือสัญญาอีก 2 ปี ก็เป็นไปได้ว่า เชลซี จะรอให้ ไมค์ เพนเดอร์ส ที่พวกเราเพิ่งยอมจ่ายถึง 17 ล้านปอนด์ กลับมาแทนที่ หลังการยืมตัวเสร็จสิ้นกับ เคอาร์ซี เกนค์
ทางด้านนักเตะปล่อยยืม เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า เพิ่งได้รับโอกาสกับ บอร์นมัธ และโดนถลุงไป 6 เม็ด แต่เจ้าตัวยังได้เรตติ้ง 7.6 ก็ยังคง 50-50 อยู่ว่า บอร์นมัธ จะกล้าซื้อขาดไหม? ถึงตรงนี้ผมขออนุญาตฟันธงเลยว่า เกป้า และ กาเบรียล สโลนิน่า จะไม่ได้ไปต่อกับทีมชุดใหญ่ในซัมเมอร์หน้าแน่นอน เช่นเดียวกับ ยอร์เย เปโตรวิช ที่อาจจะโชว์ฟอร์มได้ไม่เลว แต่สไตล์การเล่นไม่เข้ากับทีมในยุคของ เอ็นโซ มาเรสก้า
สรุปว่า ตัวเลือก 3 อันดับแรก ผมโอเคหมดนะ ได้ทั้งโควต้า HG สองคน และค่าเหนื่อยรวมกันราว 145,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เอง ซึ่งน้อยกว่า โค้ชเกป้า คนเดียวอีก! และภายใน 2 ปีนี้ เราอาจขายผู้รักษาประตู 3 คน และไม่ต่อสัญญาอีก 2 คน ก็จะลดภาระค่าเหนื่อยไปได้ราว 215,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และค่าตัวจำนวนหนึ่งจาก เกป้า, เปโตรวิช และ สโลนิน่า ครับ
🛡 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ:
✅️ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (23) £200k
✅️ โทซิน อดาราบิโอโย่ (26) £120k
✅️ ลีวาย โคลวิลล์ (21) £100k
✅️ เบอนัวต์ บาเดียชิล (23) £90k
⏳️ เตรโวห์ ชาโลบาห์ (25) £50k
⏳️ บาเชียร์ ฮัมฟรีย์ส (21) £33k
⏳️ อารอน อันเซลมิโน่ (19) £0k
มติของแฟนบอลทุกคนคงเป็นเอกฉันท์ เบอนัวต์ บ่อเดินชิล ที่พวกเราเคารพรัก น่าจะเป็นตัวเลือกเดียวที่ถูกมองบนใน 4 คนชุดใหญ่ ซึ่งหากจะมีใครสักคนมาแทนที่ คงต้องเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเท้าซ้ายที่สามารถขึ้นเกมรุกจากแนวรับได้ เฉกเช่นเดียวกับ ลีวาย โควิลล์ เพราะทั้ง เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ โทซิน อดาราบิโอโย่ ต่างเป็นนักเตะตีนขวาทั้งคู่
ทางด้านนักเตะปล่อยยืม มีเพียง บาเชียร์ ฮัมฟรีย์ส เท่านั้น ที่มีอ็อพชั่นขายขาด 15 ล้านปอนด์ หากแต่ต้นสังกัดของ เตรโวห์ ชาโลบาห์ อย่าง คริสตัล พาเลซ ก็ไม่ได้อับเฉาการเงินอะไรมากนัก จึงเป็นไปได้ว่า เชลซี จะได้รับค่าตัวพอสมควรจาก 2 นักเตะอคาเดมี่ค็อบแฮม ส่วนเจ้าของค่าตัว 14.2 ล้านปอนด์ อย่าง อารอน อันเซลมิโน่ นี่ตอบอะไรไม่ได้เหมือนกัน พอทึกทักได้ว่าน้องน่าจะมีของอยู่ เพราะมีทีมใหญ่หลายทีมในเมืองผู้ดีแอบจับจ้องมาก่อน
สรุปว่า ผมเชียร์ให้ปล่อยตัว “บ่อเดินชิล” และ 2 แข้งอคาเดมี่ที่ไม่ใช้งาน เพื่อประหยัดงบค่าเหนื่อยราว 173,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และผมหวังว่าจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 70 ล้านปอนด์ จาก 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟนี้ เพื่อนำไปพัฒนาทีมต่อครับ
🥾 ฟูลแบ็ค:
✅️ รีซ เจมส์ (24) £250k
✅️ เบน ชิลเวลล์ (27) £200k
✅️ มาร์ก คูคูเรย่า (26) £175k
✅️ อักเซล ดีซาซี่ (26) £80k
✅️ มาโล กุสโต (21) £45k
✅️ เรนาโต เวก้า (21) £25k
🏫 จอช อาชีมปง (18) £2k
⏳️ กาเล็บ วิเลย์ (19) £11k
⏳️ อัลฟรีส์ กิลคริสต์ (20) £5k
ถ้าให้ว่ากันตามตรง สองกัปตันที่ถูกแต่งตั้งถาวรเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา กลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาลแก่สโมสรต้นสังกัด แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากเจ็บ และตัวนักเตะก็อยากพัฒนาศักยภาพขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในตำแหน่งตนเองอยู่แล้ว แต่เคสของ เบน ชิลเวลล์ อาจต่างออกไป เพราะด้วยสไตล์การเล่นของเขา ทำให้ เอ็นโซ มาเรสก้า ประกาศชัดเจนว่า จะไม่ใช้งานไม่ว่ากรณีใดใด
ในขณะที่ มาร์ก คูคูเรย่า ที่กลับมาเล่นได้อย่างท็อปฟอร์ม และถูกหมุนเวียนด้วย เรนาโต้ เวก้า ที่มีความแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพลังงาน ถึงตรงนี้คงตอบได้แล้วว่า อนาคตของอดีตแบ็คซ้าย ‘จิ้งจอกสยาม’ นั้นจบลงเรียบร้อย
ส่วน อักเซล ดีซาซี่ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากเฮดโค้ชอยู่ โดยเขาสามารถขยับไปเล่นตำแหน่ง CB ได้ด้วย (เดิมทีแกก็เป็น CB แหละนะ) ก็น่าจะได้ไปต่อ โดยมี อัลฟี่ กิลคริสต์ ที่ได้ลงสนามต่อเนื่องในศึกแชมเปี้ยนชิพ รับเรตติ้งเฉลี่ยสูงพอสมควรที่ 7.04 จะมาเป็นตัวสอดแทรกในอนาคต
แบบนี้เท่ากับว่า รีซ เจมส์ เองก็เก้าอี้โรงพยาบาลร้อนระอุแล้ว เพราะค่าเหนื่อยของเขาและ ชิลเวลล์ รวมกัน ดันสูงถึง 450,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และเป็นหนึ่งในนักเตะที่สามารถขายทำราคาได้สูงด้วย แม้แฟนบอลจะรักและเชิดชูเขาเพียงใด แต่บอร์ดบริหารและทีมสตาฟฟ์ก็ต้องเลือกสิ่งที่ถูกต้องกับอนาคตเช่นกัน
ก่อนจะไปติดตามเรื่อง เชลซี กันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ
🤝 มิดฟิลด์ตัวรับ:
✅️ เอ็นโซ แฟร์นานเดซ (23) £250k
✅️ มอยส์ ไกเซโด้ (22) £200k
✅️ คาร์นี่ย์ ชูควูเมก้า (20) £100k
✅️ เคียร์แนน ดูวส์เบอร์รี่-ฮอลล์ (26) £80k
✅️ โรมีโอ ลาเวีย (20) £45k
✅️ เซซาเร่ คาเซเด้ (21) £25k
⏳️ เลสลี่ย์ อูโกชูควู (20) £45k
⏳️ อันเดรย์ ซานโต๊ส (20) £10k
ตำแหน่งที่สามารถลงสนามได้แค่ 2 คน และ เอ็นโซ มาเรสก้า ค่อนข้างชัดเจนว่า คาร์นี่ย์ ชูควูเมก้า คือตัวเลือกสุดท้ายของเขาในแท็คติค ขนาดเกม EFL Cup ยังได้รับโอกาสลงสนามแค่ 15 นาที ความเป็นธรรมอย่างหนึ่งที่ต้องกล่าวคือ ตัวนักเตะเองดูจะถนัดตำแหน่งเกมรุกมากกว่า ซึ่งตัวรุกที่มีอยู่ตอนนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะสอดแทรกได้
แน่นอนล่ะ ถ้าดูจากค่าเหนื่อยที่ผมเอาลิสต์มาให้ข้างต้น นอกจาก คาร์นี่ย์ ชูควูเมก้า แล้ว เลสลี่ย์ อูโกชูควู ก็ดูจะไม่ใช่ตัวเลือกที่เป็นไปได้ในอนาคต หากมีโอกาสขายในราคา 23.5 ล้านปอนด์ เท่ากับที่ซื้อมาในปี 2023 ผมเชื่อว่าบอร์ดบริหารคงไม่ลังเล เพราะเรายังมีดาวโรจน์ Box-To-Box อย่าง อันเดรย์ ซานโต๊ส อีกคน
คนเดียวที่ผมจะไม่แตะต้องคือ KDH หรือ เคียร์แนน ดูวส์เบอร์รี่-ฮอลล์ ที่ยังทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักกะติ๊ด แต่ด้วยความเป็นลูกรักจากที่ทำงานเก่า ทำให้เขาคงจะนั่งนับเงิน 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ที่ แสตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไป มิเช่นนั้น เราอาจประหยัดกว่า 225,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ พร้อมเงินสด 3 ถุง จากการขาย 3 นักเตะสัญชาติอังกฤษ
🏹 ตัวสร้างสรรค์เกม:
✅️ เจา เฟลิกซ์ (24) £170k
✅️ เปโดร เนโต้ (24) £160k
✅️ โคล พาลเมอร์ (22) £130k
✅️ เจดอน ซานโช่ (24) £100k
✅️ มิคายโล่ มูดริค (23) £100k
✅️ โนนี่ มาดูเอเก้ (22) £50k
⏳️ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (29) £350k
⏳️ โอมาริ เคลลี่แมน (20) £40k
คงไม่มีอะไรให้พูดเยอะสำหรับตัวสร้างสรรค์เกม เพราะนักเตะชุดใหญ่ทั้ง 6 คน สามารถทดแทนตำแหน่งตัวจริงกันได้หมด และผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับแนวทางของ เอ็นโซ มาเรสก้า นะ
หลายคนอาจมองว่า เจา เฟลิกซ์ ควรได้รับโอกาสการลงเล่นมากกว่านี้ แต่เมื่อมาผนวกกับการให้ความสำคัญในทุกถ้วยเท่า ๆ กัน โดยเฉพาะในยุคเริ่มต้นที่ยังไม่พร้อมขึ้นไปท้าชิงแชมป์ลีก มันคงจะดีกว่าที่ เชลซี ได้ลุ้นคว้าฟุตบอลถ้วยในประเทศสักใบ
เรื่องที่แปลกใจเล็กน้อยสำหรับผมคือ บอร์ดบริหารที่เขี้ยวลากดินในการจ่ายค่าเหนื่อย กลับให้ เปโดร เนโต้ ถึง 160,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หรือการรีเทิร์นของ “ฮี เฮ สปอร์ต” ที่รับ 170,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ตรงนี้เดาได้อย่างเดียวว่า บอร์ดอยากแสดงความตั้งใจในการยกระดับทีมไปอีกขั้น ส่วนไอ้ที่แพงเกินเหตุ (ไปมาก) จนอยากปล่อยตัวออกอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็ตามนั้นเลย ขอแค่ให้ฟอร์มดีเตะตาคู่ค้าอย่าง อาร์เซน่อล ก็แล้วกัน
ส่วนตัวขอแค่ 30 ล้านปอนด์ พร้อมการลดภาระค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แค่นี้ก็ยิ้มกว้างแล้วครับ (บางคนอาจบอกว่า 20 ล้านปอนด์ ก็ห่อกระเช้าแล้วพี่ อารมณ์เดียวกันล่ะ)
⚔️ กองหน้า:
✅️ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู่ (26) £195k
✅️ นิโกลาส แจ็คสัน (23) £65k
✅️ มาร์ก กีอู (18) £50k
⏳️ อาร์มาโด้ โบรย่า (23) £40k
⏳️ ดาวิด โฟฟาน่า (21) £30k
ไอ้ที่ว่างอยู่มันก็แค่ตำแหน่งเดียว และทีมใหญ่หลายทีมก็นิยมมีนักเตะไว้ใช้งาน 2 คน บวกกับ 1 ดาวรุ่งที่มีแววปั้นให้เป็นสตาร์ ซึ่งมองไปที่อายุการใช้งานและค่าเหนื่อยที่มอบให้แต่ละคน ผมคิดว่าตรงตามหลักแนวคิดและปรัชญาทุกประการ
หากไม่คิดอะไรมาก ดาวิด โฟฟาน่า ดูจะเป็นตัวสำรองในกรณีที่ นิโกลาส แจ็กสัน หรือ มาร์ก กีอู มีปัญหาอะไรขึ้นมามากกว่า ต่างจาก อาร์มาโด้ โบรย่า ที่สอบไม่ผ่านตลอดระยะเวลาที่ขึ้นทีมชุดใหญ่ในช่วงหลายขวบปีมานี้
เห็นไหมล่ะครับว่า เชลซี ในทีมงานบริหารชุดนี้ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเลย กลับกัน พวกเขากลับมีโครงสร้างทางการเงินที่ดีเพียบพร้อมและเป็นระเบียบมากเสียด้วย เดี๋ยวบทความต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร รอรับชมกันได้เลย!
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง