ตำนานลูกหนัง : ‘เควิน คีแกน’ จากดิวิชั่น 4 สู่ดาวเด่นแห่งยุค
จากนักเตะดิวิชั่น 4 สู่ดาวเด่นที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นหนึ่งในการซื้อตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของสโมสร ก่อนจะย้ายไปเป็นตำนานของ ฮัมบูร์ก เขาคนนั้นมีชื่อว่า เควิน คีแกน
ย้อนกลับไปในปี 1971 คีแกน ลงเล่นกับสโมสรสคันธอร์ป ในดิวิชั่น 4 คือชื่อเสียงของเขาในฐานะนักเตะก็พอมีคนรู้จักอยู่บ้างในระดับลีกล่าง แต่ถ้าเป็นแฟนบอลที่ติดตามแค่ลีกสูงสุด ว่ากันตามตรงคงมีน้อยคนนักที่จะรู้จัก
เจ้าตัวอยู่กับ สคันธอร์ป มา 3 ปี จนถึงอายุ 20 ซึ่งเขาพร้อมแล้วที่จะย้ายไปทีมที่ใหญ่ขึ้น แต่ปัญหาคือไม่มีสโมสรไหนสนใจอย่างจริงจัง ซึ่งเคยมีข่าวกับ ลีดส์ ในดิวิชั่น 1 แต่ ดอน เรวี่ ผู้จัดการทีมก็ออกมาบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องจริง และก็มีข่าวลือกับ อาร์เซน่อล แต่ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แม้แต่ลีกรอง อย่างดิวิชั่น 2 หรือ 3 ก็เคยตกเป็นข่าวกับ มิลล์วอลล์, เบอร์มิงแฮม หรือ น็อตต์ เคาน์ตี้ ก็เป็นแค่ข่าวลือทั้งนั้น จนถึงจุดหนึ่ง คีแกน ก็สงสัยว่าฝีเท้าของตนนั้นเป็นของจริงหรือเปล่า ซึ่งแข้งรายนี้ก็มั่นใจในฝีเท้าตัวเองนะ แต่ทำไมทีมใหญ่ ๆ ไม่คิดว่าเขาดีพอล่ะ
ในเวลาเดียวกัน ลิเวอร์พูล ในยุคของ บิลล์ แชงคลีย์ ช่วงซัมเมอร์ปี 1971 กำลังอยู่ในช่วงถ่ายเลือดใหม่ เขากำลังเฟ้นหานักเตะพรสวรรค์จากลีกรองเข้ามาสู่ทีม โดยนายใหญ่ชาวอังกฤษ และทีมแมวมองทั้ง แอนดี้ บีตตี้ และ เจฟฟ์ ทเวนตี้แมน มีโอกาสไปชมเกมของ สคันธอร์ป ที่พบกับ ทรานเมียร์ โรเวอร์ ใน เอฟเอ คัพ รอบ 2 และปรากฏว่า กุนซือรายนี้ชื่นชอบทักษะของ คีแกน มากเลยทีเดียว
คีแกน ที่เป็นดาวรุ่งของทีมในตอนนั้น ได้ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง แม้จะตัวเล็กแต่มีเทคนิคดี และที่สำคัญ อายุเพิ่งจะ 20 ปีเท่านั้น แต่ได้เป็นคนยิงจุดโทษเบอร์ 1 ของสโมสร นั่นแสดงว่าเพื่อนร่วมทีมให้การยอมรับเขาเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม บ๊อบ เพสลีย์ มือขวาของ แชงคลีย์ ยืนยันว่า นี่จะเป็นการซื้อตัวที่ถูกต้องแน่นอน และกระตุ้นให้เทรนเนอร์รายนี้คว้าตัว คีแกน มาร่วมทีมให้ได้ จนสุดท้าย ‘หงส์แดง’ ก็คว้าเด็กโนเนมจาก สคันธอร์ป มาด้วยค่าตัว 33,000 ปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อย 50 ปอนด์ อ่านไม่ผิดหรอกครับ 50 ปอนด์ จริง ๆ
แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเริ่มต้นได้อย่างทุลักทุเลในตำแหน่งเบอร์ 8 ของทีมสำรอง ก่อนที่จะกุนซือชาวอังกฤษ จะเห็นอะไรในตัว คีแกน เลยจับเขาไปเป็นเล่นศูนย์หน้า ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ 2 ประตูในเกมที่พบกับ เซาธ์พอร์ต
ทำให้ แชงคลีย์ เรียก คีแกน ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ โดยเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการฝึกซ้อม จนเขาได้มีโอกาสออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงในเกมแรกของฤดูกาลด้วยหมายเลข 7
เมื่อถึงเวลาแข่งขันทุกคนออกจากห้องแต่งตัวเพื่อผ่านอุโมงค์ลงไปสู่สนาม แต่ แชงคลีย์ ดักรอ คีแกน อยู่แล้วพูดหนึ่งประโยคว่า “ลงไปและสนุกกับมันซะ” เป็นการสร้างความมั่นใจครั้งสุดท้ายให้เขา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้เฮดโค้ชรายนี้ผิดหวัง โดยทำได้ 1 ประตู จากการแอสซิสต์ของ จอห์น โทแช็ค
หลังจบเกมแรกของซีซั่น ชีวิตของ คีแกน ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล โดยเจ้าตัวกลายมาเป็นดาวเด่นของทีม และพา ลิเวอร์พูล จบลีกด้วยอันดับที่ 3 ซึ่งเขาทำไป 9 ประตูในฤดูกาลแรก ถ้าพูดกันตามตรง ก็ถือว่าเป็นผลงานไม่เลว
นี่คือหนึ่งในการย้ายตัวที่คุ้มยิ่งกว่าชุดแฮปปี้มีลของร้านอาหารชื่อดังเสียอีก เพราะที่ แอนฟิลด์ คีแกน เป็นหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ 3 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 1, ยูโรเปียน คัพ 1 และ ยูฟา คัพ 2 สมัย
จากนั้น ฮัมบูร์ก ก็หอบเงินจำนวน 500,000 ปอนด์ มาสู่ขอนักเตะตัวท็อปของลีกอังกฤษ ไปร่วมทีมเมื่อปี 1977 ซึ่งนี่ถือเป็นค่าตัวสถิติของ บุนเดสลีกา ในเวลานั้น โดยสูงกว่าค่าตัวโดยเฉลี่ยของลีกเยอรมนี ถึง 2 เท่าตัว และได้รับค่าเหนื่อยที่ถือว่ามหาศาลเกินเพดานของลีกแห่งนี้
คีแกน ใช้เวลาปรับตัวอยู่ 1 ฤดูกาลเต็ม ๆ เพราะเขาไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมจากอาการหมั่นไส้ในฐานะซูเปอร์สตาร์ ชนิดที่ตะโกนจนคอแตกเพื่อนก็ไม่ส่งบอลให้
สุดท้ายมีการเคลียร์ใจกัน แล้วเขาก็ท้าทายเพื่อนร่วมทีมว่า ลองส่งบอลมาให้เขาสิ แล้วเขาจะยิงเพื่อนำแต้มมาให้ทีม และยังร่วมกันฝึกซ้อมนอกเวลาเพื่อเรียนรู้ใจกันจนเอาชนะใจเพื่อน ๆ ได้สำเร็จ
ในปีต่อมา เจ้าตัวยิงระเบิด 17 ลูกในเกมลีก ช่วยพาทีม ‘สิงห์เหนือ’ คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยแรกของสโมสร ซึ่งนี่ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ บุนเดสลีกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1963
คีแกน คว้าได้เพียง 1 แชมป์เท่านั้นตลอด 3 ปีที่ เยอรมนี แต่กลับประสบความสําเร็จอย่างมากในเรื่องรางวัลส่วนตัว เมื่อเขาติดทีมยอดเยี่ยม บุนเดสลีกา ของ คิกเกอร์ 3 ปีซ้อน รวมทั้งคว้ารางวัลบัลลงดอร์ 2 สมัย เมื่อปี 1978 และ 1979 จนมีการแซวจากสื่อฝั่งอังกฤษว่า คนลงคะแนนคงเห็น คีแกน เป็นชาวเยอรมัน และที่บ้านของคนพวกนั้นคงไม่มีช่องให้ดูฟุตบอลอังกฤษ
หลังจาก 3 ปีที่ บุนเดสลีกา เขาจึงกลับมาค้าแข้งที่ลีกบ้านเกิดอีกครั้ง โดย ลอรี แมคเมเนมี ขออนุมัติเงิน 500,000 ปอนด์ จากผู้บริหารของ เซาธ์แฮมป์ตัน พา ‘คิงเคฟ’ กลับมาตุภูมิ ซึ่งเขาก็ยังคงไว้ลายระดับโลกให้แฟนบอลได้ชมเป็นขวัญตา
ในส่วนตัว ผมนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เควิน คีแกน ใช้เวลาเพียง 3 ปี จากดิวิชั้น 4 สู่ทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งเจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาดีพอที่จะยืนบนลีกสูงสุด แม้ว่าจะเจออุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ก็สามารถผ่านมันไปได้และทำได้ดีอีกด้วย
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง