ข้างบ้านเรือใบ: เปิดเหตุผลว่าทำไม ‘โรดรี้’ ถึงควรได้ ‘บัลลงดอร์’ ในปีนี้
การคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ของทีมชาติสเปน และการคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ของ โรดริโก้ เฮอร์นานเดซ เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของเขาที่มีต่อทีมและความยอดเยี่ยมในผลงานส่วนตัวตลอดการแข่งขัน แม้ว่ารอบชิงชนะเลิศเขาจะเล่นได้เพียง 45 นาที แต่ก็ไม่อาจจะหยุดความร้อนแรงที่เจ้าตัวที่แบกทีมชาติในแดนกลางตลอดการแข่งขัน
แน่นอนว่าการขึ้นมาอยู่ในตัวเต็งที่จะคว้าบัลลงดอร์ของ กองกลางชาวสเปน จะทำให้กองเชียร์ของ ‘ราชันชุดขาว’ จะไม่พอใจที่ต้องเสียหน้าให้กับนักเตะของ แมนเซสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า โรดรี้ เหมาะสมกับรางวัลนี้อย่างไร้ข้อกังขา สุดท้ายแล้วถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่สามารถคว้ารางวัลนี้มาได้แต่ก็เชื่อว่า เหล่าแฟนบอลจะให้ความสำคัญกับตำแหน่งผู้เล่นตัวรับมากขึ้น เพราะตลอดที่ผ่านมามากกว่า 17 ปีมีแต่ผู้เล่นแนวรุกที่ได้รับรางวัลนี้ และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องเป็น โรดรี้
ข้อที่ 1 คือถ้วยแชมป์ที่ไม่น้อยหน้าใครในลิสต์กลุ่มตัวเต็งบัลลงดอร์ โดยเขาเป็นนักเตะสำคัญในการพาสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยปาดหน้า อาร์เซน่อล ไปอย่างสนุก, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ, สโมสรโลก และฟุตบอลแห่งชาติยุโรป นับตั้งแต่ต้นปี 2023 โรดรี้ คว้าถ้วยรางวัลไปทั้งหมด 8 รายการ มากกว่าที่เขาแพ้เพียง 4 เกมเท่านั้น ให้กับสโมสรและทีมชาติ
ข้อที่ 2 ที่จำเป็นต้องพูดถึงคือผลงานและรางวัลส่วนตัวในฤดูกาลนี้ ด้วยการลงเล่น 63 เกม ยิง 12 ประตู ทำไป 15 แอสซิสต์ ในตำแหน่งกองกลางหมายเลข 6 ก็ต้องบอกว่าเป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว พร้อมกับตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ถึง 2 รายการคือ สโมสรโลก และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้เล่นในแนวรับ
ข้อสุดท้ายคือความสำคัญของเขาที่มีต่อทีมไม่ว่าจะในนามทีมชาติหรือสโมสร โดยเราสามารถรับรู้ได้จากความคิดเห็นของผู้คนที่ได้อยู่รอบข้างเขา ยกตัวอย่างคำพูดของ ผู้จัดการทีมชาติสเปน อย่าง หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ ว่า “โรดรี้ ต้องได้บัลลงดอร์ โปรดให้เขาเถิด เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก”
และเป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าคู่แข่งในการลุ้นรางวัลจะกังวลในเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า แฟนบอลของ เรอัล มาดริด เองก็เริ่มออกมาให้ข้อมูลเท็จบ้างหรือมีการด้อยค่าในตัว โรดรี้ บ้าง เนื่องจากตอนนี้ กองกลางชาวสเปน เป็นคู่แข่งคนสำคัญกับ 3 นักเตะของพวกเขาไม่ว่าจะเป็น จู๊ด เบลลิ่งแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ และ ดานี การ์บาฆาล
แต่ถ้าเรายึดกฏเกณฑ์จากปีก่อนที่รางวัลค่อนข้างให้น้ำหนักกับแชมป์ระดับประเทศอย่างมาก จนทำให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ต้องพลาดบัลลงดอร์ แม้ว่าเขาจะคว้าได้ถึง 3 แชมป์ในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ที่สำคัญให้กับสโมสร แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่อาจจะสู้กับแชมป์ฟุตบอลโลกของ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ ถ้าเรามองมุมนี้เท่ากับว่าตัวเต็งที่ลุ้นรางวัลจะเหลือเพียง 2 คนคือ โรดรี้ และ การ์บาฆาล
ท้ายที่สุดก็ต้องอยู่ที่คนโหวดว่าพวกเขาจะมองในมุมไหน จะให้ความสำคัญกับอะไร แต่อย่างน้อยการที่มีนักเตะของ แมนฯ ซิตี้ อยู่ในกระแสการลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ 2 ปีติดก็เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ให้กับทีมแล้ว ถ้าปีหน้าทีมของเรายังรักษามาตรฐานและคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกได้อีกครั้งก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมที่เราจะได้เห็นเจ้าของรางวัลนี้เป็นนักเตะของ ‘เรือใบสีฟ้า’ และเมื่อถึงวันนั้นทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกปีล่าสุดจะก้าวข้ามหน้าประวัติศาสตร์ไปอีกขั้น พร้อมกับพูดได้เต็มปากว่า การเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ก็สามารถพานักเตะไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพได้
ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องสารภาพตรงๆว่าอยากเห็นนักเตะของทีมได้รางวัลนี้เหมือนกัน จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรอย่างแน่นอน และตัว โรดรี้ เองก็เหมาะสมทุกประการทั้งในแง่ความสำเร็จของทีมและรางวัลส่วนบุคคล ก็ได้แต่ภาวนาว่าให้มันเกิดขึ้นจริง…
เขียนโดย The Lite Team
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง