เลาะรั้วปีศาจแดง: แชมป์ ‘เอฟเอคัพ’ กับอนาคตที่ยังไม่ชัวร์ของ ETH
ถือว่าพลิกล็อคพอสมควรสำหรับผลการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะทีมร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 และแม้ว่าจะปิดฤดูกาลได้อย่างสวยหรู แต่อนาคตของเฮดโค้ชอย่าง เอริก เทน ฮาก ก็ยังคงไม่มีอะไรที่แน่นอน
ต้องบอกก่อนว่าเป็นความรู้สึกที่ ‘สะใจ’ เหลือเกินกับการคว่ำ แมนฯ ซิตี้ ที่เป็นเต็งหนึ่งแทบจะทุกรายการในชั่วโมงนี้ โดยเฉพาะกับนัดชิงชนะเลิศที่จัดขึ้นใน เวมบลีย์ ยิ่งทวีคูณความสะใจเพิ่มขึ้นไปอีก รวมถึงได้ล้างอายจากการที่พ่ายแพ้ด้วยสกอร์เดียวกันในฤดูกาลก่อนอีกด้วย
แน่นอนว่าทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลทีมไหนต่างก็รู้สึกได้ตั้งแต่ก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้นแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นเป็นรองในทุกมิติ ซึ่งเมื่อบอลเริ่มเขี่ย มันก็เป็นเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ เพียงแต่ ‘ปีศาจแดง’ สามารถคว้าโอกาสที่ผ่านเข้ามาได้ และช่วยให้ขึ้นนำไปก่อน 2 ประตูตั้งแต่ในช่วงครึ่งเวลาแรกจาก 2 ดาวเตะวัยทีนของสโมสรอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ ค็อบบี้ ไมนู
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ จะเป็นฝ่ายครองบอลถึง 75 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ที่จะแจ้งได้เลย จนกระทั่งมาได้ประตูจาก เจเรมี โดกู ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ซึ่งนี่ก็แสดงให้เห็นถึง ‘กึ๋น’ ในการแก้เกมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกครั้ง
แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่นั้นและจบลงด้วยการเป็นแชมป์ เอฟเอคัพ สมัยที่ 1 3 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตามจี้ อาร์เซนอล เหลือเพียงแค่สมัยเดียวแล้วในเวลานี้
เหนือสิ่งอื่นใด ก็ต้องให้เครดิตกับ เอริก เทน ฮาก ด้วยเช่นกัน ที่แม้ว่าหลายต่อหลายคนจะค่อนขอดว่าเล่นบอลไม่เป็นทรงในวันนี้ แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ลูกทีมของเขาเล่นกันอย่างเป็นแพทเทิร์นด้วยการโยนเปลี่ยนแกน เพื่อหาจุดอ่อนของ ซิตี้ ซึ่งก็คือการที่กองหลังจะเหลือเพียง 3 คนเวลาบุก และใช้จุดนี้ในการเจาะเข้าไปทำประตู
ถ้าจะให้เห็นภาพชัด ๆ ก็คือประตูที่ 2 นั่นแหละครับที่โยนให้ การ์นาโช่ ก่อนที่ผู้เล่นตัวรุกคนอื่น ๆ อีก 2-3 จะ ‘วิ่งควาย’ กันเข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกในการจ่ายบอล โดยที่ตัวรับของคู่แข่งจะเหลือน้อยกว่า เรียกง่าย ๆ ก็คือเป็นการสวนกลับเร็วที่เตรียมการณ์กันเอาไว้แล้วนั่นแหละครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่รู้ว่าหลังจบเกมนี้ บอร์ดบริหารจะเอาอย่างไรกับกุนซือชาวดัตช์ผู้นี้ ซึ่งผลงานเองก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลยกับการคว้ามาได้ 2 ถ้วยใน 2 ปีที่เข้ามาทำงานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมถึงยังพาทีมได้ไปเล่นในถ้วยยุโรปได้อีกครั้ง
ยังไงก็ต้องลุ้นกันไปเรื่อย ๆ แหละครับ ว่าจะได้เห็น ‘หัวโล้น’ ของแกในฐานะกุนซือ ‘เร้ด เดวิลส์’ ต่อไปหรือไม่ในฤดูกาลหน้า
เขียนโดย The Lite Team.LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.