ด้วยความได้เปรียบในเรื่องของตารางคะแนน หากทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถเก็บ 3 แต้มจากนัดตกค้างได้สำเร็จ จะทำให้พวกเขามีคะแนนนำอันดับ 2 อยู่ 2 คะแนน ซึ่งเพียงพอต่อการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ เพราะหากมองไปที่ผลต่างประตูได้เสียคงจะไม่สามารถไล่ อาร์เซน่อล ทัน

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคงเป็นนัดบุกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน ‘เสี้ยนหนาม’ ของ กวาร์ดิโอล่า มาตลอด แม้ว่าในฟุตบอลเอฟเอคัพ แมนฯ ซิตี้ จะสามารถล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จด้วยการชนะไป 1-0 จากลูกยิงของ นาธาน อาเก้ และหากพวกเราสามารถเก็บ 3 แต้มในนัดที่บุกไปเยือนได้ ก็ต้องบอกว่าคู่ควรที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก

อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่าการตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ มีลุ้นในลีกมากขึ้น ด้วยจำนวนนัดที่น้อยลงไป 2 เกม ทำให้ทีมได้พักผ่อนมากขึ้น เพราะถ้าเราสังเกตในช่วงหลังจะเห็นว่านักเตะเริ่มมีอาการล้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะหัวใจของทีมอย่าง โรดรี้

ประตูได้เสีย อาจเป็นอีกหนึ่งข้อเสียเปรียบของ แมนฯ ซิตี้ ที่เมื่อเทียบกับ อาร์เซน่อล ค่อนข้างจะเห็นได้ชัด ปัจจุบันต่างกัน 7 ลูก ตราบใดที่ทีมเราไม่สามารถยิงได้เกมละ 4-5 ลูก ก็แทบจะไม่มีโอกาสแซงจ่าฝูงได้เลย นั่นแปลว่าผลเสมอก็ไม่เพียงพอต่อทีม ถ้าเป็นฤดูกาลก่อน ๆ เราคงได้เปรียบในจุดนี้แต่ปีนี้ไม่ใช่

สุดท้ายเลยคือเหล่านักเตะตัวหลักที่ต้องรีดฟอร์มที่ดีที่สุดให้ได้ไม่ว่าจะเป็น โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, จอห์น สโตนส์ และ โฟเด้น โดยเฉพาะรายหลังสุดที่ต้องพิสูจน์ให้ทั้งลีกได้เห็นว่าเขาเหมาะสมกับตัวเต็งรางวัล PFA

ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องสารภาพว่าปีนี้อาจเป็นอีกครั้งที่อาจต้องลุ้นแชมป์จนนัดสุดท้ายแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ อาถรรพ์แห่ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ที่เราไม่เคยชนะในเกมลีก และเชื่อว่าถ้าเราผ่านเกมนี้ไปได้ เราเป็นแชมป์แน่นอน…

เขียนโดย The Lite Team

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.