Gooner Journey: ความยอดเยี่ยมของ ‘ขุนพลปืนใหญ่‘ หลังเกมขยี้ ‘เชลซี‘
‘London is Red‘ ประโยคนี้สะท้อนความจริง ณ ปัจจุบันหลัง อาร์เซนอล เปิดฉากถล่ม เชลซี ยับเยินไปด้วยสกอร์ 5-0 ซึ่งพวกเขาไม่แพ้ทางผู้มาเยือนตลอด 6 เกมหลังสุดอีกด้วย
นี่คือแมตซ์แรกในรอบหลายปีที่แฟนบอลอย่างผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาติเตียนทีมรักของตัวเองได้เลย ทุกอย่างแมร่งโคตรเพอร์เฟ็ก 100% ตลอดทั้ง 90 นาทีเต็ม นักเตะทุกคนแสดงถึงความกระหายและประทับอยู่ในมาตรฐานระดับขีดแดงของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คนแรกที่ต้องได้รับการสรรเสริญคงหนีไม่พ้น Man of the match ของเกมนี้อย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ในมุมมองของผมนี่คือกัปตันทีมที่ดีที่สุดหลังหมดยุค ปาทริค วิเอร่า นักเตะชาวนอร์เวย์มีอิทธิพลต่อทีมชุดนี้ในทุกแง่มุมของคำว่ามืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเกมรุกหรือเล่นเกมรับ ชนิดที่เรียกได้ว่าหากต้องเหลือผู้เล่นเพียงคนเดียวที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อสโมสร ก็คงจะมีแค่เขาเท่านั้นแหละ
คนต่อไปที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ โดยเฉพาะการลั่นสกอร์ตอกหน้าต้นสังกัดเก่าได้อย่างสะใจทั่วทั้งโลกโซเชียล ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากที่เขาปรับตัวเข้ากับทีมมาได้สักระยะหนึ่ง การยืนตำแหน่งรวมถึงการเคลื่อนที่ของเขามันเติมเต็มเข้ากับระบบของทีมได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ อีกทั้งฤดูกาลนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวทำประตูได้มากที่สุดตลอดการเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก จนเปลี่ยนจากคำสบประมาทเป็นเสียงชื่นชมอยู่ในเวลานี้
อีกคนที่ขอหยิบยกมาพูดถึงขอข้ามไปที่ฝั่งตัวสำรองอย่าง ฟาบิโอ วิเอร่า แม้ว่าการกลับมาของเขาจะใช้เวลาในสนามเพียงแค่ 15 นาที แต่นั่นก็เพียงพอที่มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสจะได้แสดงคุณสมบัติที่โดดเด่นของเขาออกมา โดยเฉพาะความเด็ดขาดในการจ่ายบอลและพละกำลังการยิงที่น่าประทับใจซึ่งถือว่าเป็นอาวุธติดตัวที่มีความอันตรายสูง ถึงแม้ว่าในซีซั่นนี้จะค่อนข้างโชคร้ายที่เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เชื่อเหลือเกินว่าการหวนคืนสู่สังเวียนแข้งครั้งนี้จะเป็นกำลังสำคัญกับอีก 4 เกมที่เหลือของ อาร์เซนอล ได้อย่างแน่นอน
เส้นทางสำหรับฤดูกาลนี้เหลืออีกเพียงไม่ถึง 1 เดือนก็จะได้รู้กันแล้วว่าจะจบลงแบบไหน อย่างไรก็ตามเกมต่อไป "สงครามแห่งลอนดอนเหนือ" รอพวกเราอยู่!
เขียนโดย The Lite Team
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง