38 Drinks: ‘ตราหมี’ ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะ ‘ราชัน’

หากพูดถึง แอตเลติโก มาดริด กับถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก พวกเขาก็เหมือนกับคนอกหัก ที่ต้องเจ็บซ้ำ ๆ กับคนเดิม ๆ
ทัพ ‘ตราหมี’ ก้าวขึ้นมาเป็น 1 ใน 3 ทีมที่ยิ่งใหญ่ และได้รับความนิยมสูงสุดของสเปน ต่อจาก เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า โดยพวกเขาสามารถสอดแทรกขึ้นมาคว้าแชมป์ ลาลีก้า ได้ 2 สมัย ในรอบ 11 ปีหลังสุด
มันอาจไม่ได้เป็นตัวเลขที่สูงมากมาย แต่ต้องไม่ลืมว่าอีก 2 ทีมนั้นผูกขาดความสำเร็จในแดนกระทิงดุมายาวนานขนาดไหน ยังไม่รวมถึงเม็ดเงินที่พวกเขาก็ไม่ได้มีเป็นถุงเป็นถัง แต่ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าของยุโรปได้
อย่างไรก็ตามในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เรื่องราวของ แอตเลติโก มาดริด นั้นเปรียบเหมือนกับความผิดหวังซ้ำ ๆ ที่มาในรูปแบบเดิม ๆ เพราะว่าก่อนหน้านี้ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เคยพาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ต้องเจอกับฝันร้ายเพราะ เรอัล มาดริด
ครั้งแรก 2013/14 ดิเอโก้ โกดิน ทำประตูขึ้นนำให้กับทีมได้ในนาทีที่ 36 ซึ่งพวกเขาได้สิทธิถือถ้วยหูโต เอาไว้ตั้งแต่วินาทีนั้น แต่แล้วช่วงท้ายของการทดเวลา เซร์คิโอ รามอส ก็มาทำประตูตีเสมอ แล้วกลายเป็นว่าทัพ ‘ราชันชุดขาว’ มารัว 3 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ชัยชนะในเกมดังกล่าวของ เรอัล มาดริด เหมือนเป็นการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ หลังจากที่สถิติแชมป์ 9 สมัย หยุดนิ่งมาตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งหลังจากที่คว้าแชมป์ในปีนั้นได้สำเร็จแล้ว พวกเขาก็เดินหน้าคว้าได้อีกถึง 5 ครั้งใน 10 ปีต่อมา
ส่วนในฤดูกาล 2015/16 แอตเลติโก้ มาดริด ก็มาเจอกับคู่ปรับร่วมเมืองในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง ซึ่งหนนี้มันก็อาจจะดูเป็นการฉายหนังซ้ำ แต่ไม่ใช่เพราะรูปเกมหรืออะไรทั้งนั้น ปัจจัยสำคัญคือพวกเขาแพ้ให้กับทีมเดิม ๆ
คราวนี้ไม่ได้โดนถล่มเละในช่วงต่อเวลา แต่เมื่อไปถึงการดวลจุดโทษ ก็เป็นฝั่งเจ้ายุโรปที่ทำได้ดีกว่า
เข็มนาฬิกาเดินหน้ามาเกือบ 10 ปี แอตเลติโก มาดริด ได้เจอกับ เรอัล มาดริด ใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อีกครั้ง แต่คราวนี้มีเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะเป็นการเจอกันตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย
นัดแรก ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ สั่งลูกทีมเล่นรัดกุมแม้ว่าจะเป็นฝ่ายตามหลัง แต่ก็แสถงให้เห็นชัดเจนว่าแพ้ลูกเดียวไม่เป็นไร เดี๋ยวนัดที่สองในบ้านค่อยเอาคืน ซึ่งพวกเขาทำได้จริง ๆ เมื่อ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ทำประตูได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม ก่อนที่บรรยากาศจะอึดอัดจนต้องมาดวลจุดโทษอีกแล้ว
คราวนี้เรื่องน่าสนใจคือในการดวลเป้ากันนั้น มีจังหวะที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ยิงเข้าไป แต่ว่า VAR ฟ้องว่าเป็นการเล่น 2 จังหวะ เพราะกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่าลื่นล้มตอนยิง แล้วกลายเป็นว่าบอลมาโดนขาหลักไปก่อน
ประเด็นนี้เป็นที่ถกเถียงอย่างมากใน 24 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งอันที่จริงมันก็ถูกต้องแล้ว เพราะว่าในกติกาได้ระบุไว้ชัดเจน เพียงแต่ว่ามันเจ็บตรงที่เหมือนอกหักกับคนเดิม
ตอนนี้สิ่งที่ แอตเลติโก้ มาดริด ควรทำคือโฟกัสกับอีก 2 รายการที่เหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น โคปาเดลเรย์ ที่อยู่ในรอบรองชนะเลิศ และในเวที ลาลีก้า ก็เหมือนเป็นเรื่องดีเพราะว่า เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ยังต้องมีห่วงในถ้วยยุโรป
ทั้งนี้ต่อให้ ‘ตราหมี’ จะคว้าแชมป์ในสเปนได้ทั้งหมด ก็เชื่อเหลือเกินว่ามันไม่สามารถลบรอยแผลทางใจใน แชมเปียนส์ลีก ที่เหมือนชะตาฟ้ากลั่นแกล้ง ที่ทุกครั้งต้องปราชัยให้กับ ‘ราชันชุดขาว’ อยู่ร่ำไป
เขียนโดย The Lite Team.
38 Drinks

