จาก Tottenham Hotspurs Stadium ถึงเมืองไทย
เมื่อปีที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสนามฟุตบอลที่ถือว่า ใหม่ละมีมูลค่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ณ ขณะนี้ คงเดากันไม่ยาก สนามนั้นคือ Tottenham Hotspurs Stadium สนามหลักของทีมไก่เดือยทอง Tottenham Hotspurs นั่นเอง
สนามนี้นอกจากจะมีขนาดที่ยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนเอาไว้มากมาย จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง การเที่ยวชมสนามฟุตบอล ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ ในการสร้างแรงบันดาลใจ และเติมเต็มความคลั่งไคล้ ให้กับแฟนบอลทีมนั้น ทั้งยังเป็นอีกด้านหนึ่งของกีฬาที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเจ้าของทีมฟุตบอล
นอกจากรายได้ที่ได้จากการขายตั๋วฟุตบอลในแต่ละแมทช์ หรือค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด รวมถึงค่าตัวนักเตะจากการซื้อขายแล้ว รายได้หลักส่วนอื่นยังมาจากการขายสินค้าของทีม ไม่ว่าจะเป็นชุดแข่ง ผ้าพันคอ ของที่ระลึกอื่นๆอีกมากมาย และการทัวร์สนาม ก็ถือเป็นช่องทางการเงินที่ในแต่ละสนามต่างจะมีลูกเล่นของตัวเอง เพื่อดึงดูดผู้ชมให้เข้าไปร่วมสนุก สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป
Tottenham Hotspurs Stadium เป็นสนามฟุตบอลที่มีความพิเศษ และแตกต่างจากทีมฟุตบอลอื่นๆอยู่หลายอย่าง ปัจจุบันสนามแห่งนี้ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งของลอนดอน ด้วยสิ่งที่ไม่เหมือนใคร
เริ่มจาก escapeSingleQuotสนามฟุตบอลมาตรฐานescapeSingleQuot ที่สามารถแปลงร่างให้กลายเป็น escapeSingleQuotสนามอเมริกันฟุตบอลescapeSingleQuot ได้ในเวลาเพียงยี่สิบนาที! โดยที่ได้มีการซ่อนพื้นหญ้าเทียมสำหรับใช้ในกีฬาอเมริกันฟุตบอลไว้ข้างใต้พื้นที่อีกที ด้วยขนาดที่ใกล้เคียงกันของสนามกีฬาทั้งสองประเภท และมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยที่ด้านกว้างของสนาม การแก้ปัญหานี้ได้มีการออกแบบไว้แล้ว ตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างสนามใหม่ในปี 2016 โดยทีมวิศวกร พวกเขาได้ออกแบบให้สนามสามารถเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบไฮดรอลิก จึงทำให้สนามสเปอร์สในปัจจุบัน สามารถจัดการแข่งขันกีฬาทั้งสองประเภทได้ภายในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องย้ายสถานที่แข่ง
ในเดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา มีสองเกมที่ NFL ได้มาใช้สนามแห่งนี้จัดการแข่งขัน ซึ่งเป็นการเปิดสังเวียนนอก สหรัฐอเมริกา ที่ประสบความสำเร็จมาก เรียกผู้ชมทั้งจากในอเมริกา และยุโรปได้ล้นหลาม เจ้าหน้าที่ในสนามเล่าให้ฟังว่า การที่ NFL มาร่วมลงทุนในสนามกับทีมสเปอร์สครั้งนี้ เพื่อเป็นการขยายฐานคนดูอเมริกันฟุตบอลให้มากขึ้น เพราะเมื่อเทียบกับฟุตบอลแล้ว คนดูถือว่าน้อยกว่ามาก ส่วนทาง สเปอร์ส ก็ได้เม็ดเงินมาลงทุนเพิ่มจากงานโปรเจ็กต์นี้ ดึงดูดแฟนอเมริกันฟุตบอลให้มาดู พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินสะพัด แถมอาจสร้างฐานแฟนบอลใหม่ๆจากสาวกอเมริกันฟุตบอลได้อีกทาง ต้องถือว่าเกมนี้ วินวิน กันทั้งคู่
สนามแห่งนี้สามารถรองรับผู้ชมได้มากถึง 62,850 ที่นั่ง จัดว่าใหญ่เป็นอันดับที่สามของอังกฤษ เป็นรองแค่สนาม Wembley และ Old Trafford มูลค่าการสร้างอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันล้านปอนด์ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นสถานที่อเนกประสงค์ ทั้งสำหรับคนที่ชอบกีฬา นักท่องเที่ยว นักวิชาการ รวมถึงคนที่ชอบกิจกรรมที่แปลกแหวกแนว
ไฮไลท์ถัดมาของสนามแห่งนี้คือ The Dare Skywalk คือทางเดินพื้นกระจกที่อยู่สูงขึ้นไปจากพื้นสนามที่ 46.8 เมตร เป็นกิจกรรมสำหรับที่คนชอบท้าทายความสูง วัดความกล้าในการขึ้นไปเดินอยู่บนทางเดินสุดเสียว เพื่อไปทักทายกับ escapeSingleQuotรูปปั้นไก่ทองescapeSingleQuot หรือ escapeSingleQuotThe CockerelescapeSingleQuot ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนปลายสุดหลังคาสนาม และเพื่อขึ้นไปชมความงดงามของกรุงลอนดอนจากมุมสูง ในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ซึ่งกิจกรรมนี้ เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวอย่างมาก แม้ว่าหลายคนอาจจะไม่เคยสนใจกีฬาฟุตบอล แต่พวกเขาอาจจะสนใจที่จะมาเดินบน skywalk ครั้งหนึ่งในชีวิตก็เป็นได้
นอกจากนี้แล้ว การชมสนามสเปอร์ส เรายังได้เห็นถึงความหรูหราอลังการของการตบแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอกที่ออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย แข็งแรงทนทาน อาคารหลักที่ตั้งของสนาม มีบริเวณลานอเนกประสงค์ภายนอก เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานเพื่อกิจกรรมอื่นๆได้
จุดเด่นอีกอย่างคือ ร้านค้าของสโมสร หากเป็นร้านค้าทั่วไปในสโมสรอื่น อาจใช้เพื่อวางขายสินค้าเป็นหลัก หรือทำเป็นคาเฟ่ไว้บริการคนที่มาเยี่ยมชมสนาม แต่ร้านค้าของ สเปอร์ส มีบริเวณที่เป็นเหมือนอัฒจรรย์ขนาดย่อมอยู่ภายในโซนหนึ่งของร้านค้า สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย อาทิ เอาไว้นั่งถ่ายรูปเล่น, เอาไว้เป็นจุดนัดพบก่อนเข้าไปชมสนามในการทัวร์ และเป็นจุดที่ให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของสโมสรแก่ผู้ที่เข้ามาชมร้านค้าอีกด้วย โดยการเปิดวิดีโอ เกียรติประวัติ ความสำเร็จของทีม ที่จุดนี้ทุกๆสิบนาที วนไปเรื่อยๆทั้งวันจนปิดร้านค้า วิธีนี้ ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมา แม้จะไม่ได้อินกับฟุตบอลมากนัก แต่ก็ได้รู้ได้เห็นโดยอัตโมัติ เหมือนโดนสะกดจิตให้ได้ฟังได้ดูอยู่ตลอด ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ทีมนี้ มีพัฒนาการที่ดี และมีสนามที่ยิ่งใหญ่ เป็นหน้าเป็นตาให้กับชุมชน
ขณะที่ชมสนาม เราได้เจอเจ้าหน้าที่ที่ดูแลตามจุดต่างๆในสนาม มีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งถามว่า พวกเรามาจากไหน พอรู้ว่าเป็นคนไทย เขายิ้มกว้าง พูดว่า “สวัสดีครับ” ทันที แล้วเล่าว่า เขาเคยทำงานที่เมืองไทย และเห็นศักยภาพของนักฟุตบอลเยาวชนไทยที่เก่งๆหลายคน จึงคิดเสมอว่า ด้วยสิ่งที่มีอยู่ ประเทศไทยน่าจะมีนักฟุตบอลมาเล่นในระดับโลกได้ไม่ยาก คำถามของเขาคือ “เมื่อไหร่จะมีนักเตะจากเมืองไทย มาเล่นในพรีเมียร์ลีก” เชื่อว่าเป็นคำถามที่หลายคน ก็คงอยากรู้คำตอบเช่นกัน คำตอบที่เรามีให้คือ “เรากำลังพยายามอยู่อย่างสุดความสามารถเลยล่ะ! รอดูสักวันเราจะมาเล่นใน พรีเมียร์ลีกให้ได้” และในใจก็หวังให้เป็นเช่นนั้นในสักวัน เขาเลยพูดกับเราทิ้งท้ายว่า “มาให้ได้นะ พวกเรารอดูพวกคุณอยู่”
จบการทัวร์สนามในวันนั้น เต็มไปด้วยความประทับใจ ได้เห็นความก้าวหน้า ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบสนาม ได้เห็นสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลง ให้สนามฟุตบอลไม่ใช่แค่ที่เล่นกีฬาอีกต่อไป เพราะสำหรับคนอังกฤษแล้ว ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬา แต่มันคือทุกอย่าง เช่น วิถีชีวิต, การทำงาน, สังคม, วัฒนธรรม, แนวคิด หรือ สไตล์ เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงไม่ได้น่ากลัวเสมอไป หากแต่เราต้องมองในหลายมิติ เข้าใจถึงแก่นแท้ของสิ่งที่เราจะเปลี่ยนอย่างลึกซึ้ง จริงจัง มีข้อมูลรอบด้านเพียงพอ และต้องเชื่อมั่นในความพยายามที่จะนำไปสู่สิ่งที่ดีได้ และวันนี้ ยังได้ยินจากปากคนอังกฤษเองว่า นักเตะไทยเก่งจริง ควรจะมีโอกาสไปให้ถึงระดับยุโรปบ้าง แม้จะรู้ว่าเป็นปณิธานที่ยิ่งใหญ่ และพยายามกันมาอย่างที่สุดแล้วสำหรับวงการฟุตบอลบ้านเรา แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝันเสียที ในเมื่อเดินมาถึงจุดนี้ ก็อย่าท้อถอย จำคำของเจ้าหน้าที่ท่านนี้เอาไว้ให้ดีว่า “มาให้ได้นะ พวกเรารอพวกคุณอยู่”
มาช้าไปหน่อยไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าให้รอเก้อก็แล้วกัน.
เขียนโดย Saito Hajime.
The Lite Team.