มิดไมล์ : ประสบการณ์ ‘เฟลิกซ์’ ในวัย 25 ปี

ด้วยวัยเพียง 25 ปี ของ ชูเอา เฟลิกซ์ กลับได้รับประสบการณ์ในการลงสนามให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ทั้ง เบนฟิก้า, แอตเลติโก มาดริด, บาร์เซโลน่า, เชลซี และทีมปัจจุบันที่ย้ายมาแบบยืมตัวก็คือ เอซี มิลาน ซึ่งด้วยอายุเพียงเท่านี้แต่ทำไมเขาถึงได้ย้ายที่อยู่บ่อย เรามาตามดูกันครับ
ต้องยอมรับด้วยเพียงแค่นี้ ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส นั้นกลับได้รับโอกาสจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ถึงแม้ว่าจะฟอร์มดีหรือไม่ดีแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะถูกตกเป็นเป้าการเสริมของเหล่าบรรดากุนซือจากทีมอื่น ๆ อยู่เสมอ
หลังจาก เฟลิกซ์ ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า ในวัย 18 ปี เจ้าตัวถูกยกย่องจาก รุย คอสต้า แข้งอัจฉริยะยุค 90 ว่าเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดเท่าที่อะคาเดมี่ของสโมสรเคยสร้างมา โดยเขาทำประตูแรกได้ด้วยวัยขนาดนั้น และเกมที่ทำประตูได้ยังเป็นแมตช์ที่เดือดดาลที่สุดใน โปรตุเกส อย่าง ลิสบอน ดาร์บี้ ระหว่าง เบนฟิก้า กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
ในวันที่เขาทำประตูได้ ทุกสื่อพาดหัวข่าวตรงกันหมดว่า ‘นี่คือดาวรุ่งดวงใหม่ได้ถือกำเนิดแล้ว ชูเอา เฟลิกซ์ เขาคืออัจฉริยะ’
ความสุดยอดในสมัยดาวรุ่งของเขายังไม่หมดแค่นี้ เจ้าตัวทำไปถึง 15 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ จาก 26 เกมในลีก และพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดโปรตุเกส ฤดูกาล 2018/19 และแจ้งเกิดเต็มตัวกับ เบนฟิก้า สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดซื้อขายอีกครั้ง หลายทีมแถวหน้าในยุโรปต่อแถวเพื่อรอเจรจาคว้าเด็กมหัศจรรย์คนนี้มาร่วมทัพ และอย่างที่เรารู้กัน แอตเลติโก มาดริด คือทีมที่ยอมจ่ายในราคาที่บ้าคลั่งที่สุดชนิดที่ทุกทีมต่างต้องถอยหนี ซึ่งค่าตัวของเด็กวัย 18 ปี นั้นสูงถึง 126 ล้านยูโรเลยทีเดียว
พอได้ย้ายมาซบ ‘ตราหมี’ ไม่กี่นัดเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ หลังโซโล่เลี้ยงเดี่ยวเป็นระยะ 60 เมตร ก่อนจะทำประตูใส่ เกตาเฟ่ แบบนี้มันคงบอกได้ถึง ‘ไอ้เด็กนรก’ มันช่างเด็ดเดี่ยวกล้าตัดสินใจอะไรเบอร์นี้ แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นเมื่ออยู่ในพื้นหญ้า ตอกย้ำให้เห็นชัดเจนเลย แอตเลติโก มาดริด ซื้อตัวมาไม่ผิด
เพียงแต่ว่าอย่างที่เราทุกคนรู้กัน ปัญหามันคืออะไร ? ทั้งที่ เฟลิกซ์ เล่นได้ดีและอันตรายในตำแหน่งตัวรุกที่ตัดสินเกมได้ขนาดนั้น ทำไมเขาไม่ประสบความสำเร็จกับ แอตฯ มาดริด เรื่องฝีเท้าเราคงไม่ต้องเถียงกันว่าเขา คือนักเตะระดับพรสวรรค์ที่ทำหน้าที่เกมรุกได้หลากหลาย แต่ อองตวน กรีซมันน์ บอกว่าจริง ๆ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ๆ นั่นคือ ‘ไม่มีใครใหญ่เกินทีม’ และ เฟลิกซ์ มีความเป็นแบดบอยหัวขบถที่เชื่อในความคิดของตัวเองมากจนเกินไป
แต่บังเอิญว่าคนที่ต้องดูแลเขาดันเป็น ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือที่สุดโต่งเรื่องแนวทางของตัวเอง และจะไม่เปลี่ยนทีมเพื่อใคร ทุกคนที่มาที่นี่ต้องเล่นในแบบ แอตฯ มาดริด ให้ได้ ซึ่งทุกคนรู้กันดีว่ามันคือการเล่นเกมรับอย่างมีวินัย ดุดัน กระแทกกระทั้น และดูเหมือนว่าทั้ง 2 คนจะเคมีไม่ตรงกันนัก
จนสุดท้ายยักษ์ใหญ่กรุงมาดริด ก็ต้องปล่อยให้ เชลซี ยืมตัวไปใช้งานในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม 2023 แต่ครึ่งซีซั่นั้นก็บงบอกอะไรไม่ได้ว่า เฟลิกซ์ ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวกับ ‘สิงห์บลูส์’ และพอจบฤดูกาลพวกเขาก็ไม่ได้ซื้อขาดแข้งรายนี้แต่อย่างใด
ทำให้เขาต้องกลับไปสู่สโมสรแม่อย่าง แอตฯ มาดริด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ที่จะกลับไป สุดท้ายเอเยนต์ของนักเตะอย่าง ฮอร์เก้ เมนเดส ก็หาทางออกให้จนได้ด้วยการพาเขาไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบยืมตัวในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายพอดิบพอดี ชนิดที่ตัวนักเตะให้สัมภาษณ์แบบเผาบ้าน ด้วยการบอกว่า อยากย้ายไปอยู่กับ ‘บาร์ซ่า’ ก่อนพวกเขาจะมาคว้าตัวไปจริง ๆ
แม้ว่าเจ้าตัวจะทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่การที่ ‘ตราหมี’ เรียกร้องเงินจำนวน 80 ล้านยูโรในการซื้อขาด ทำให้ ‘ต่างดาว’ ที่มีปัญหาด้านการเงินอยู่แล้ว ยอมส่งคืนแข้งรายนี้กลับสู่สโมสรเดิมอย่างง่ายดาย
และโชคชะตาก็เล่นตลก เจ้าตัวได้กลับมาสู่รั่ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในซีซั่น 2024/25 ด้วยค่าตัว 52 ล้านยูโร บวกออปชั่นอีก 5 ล้านยูโร แต่เขากลับไม่ได้เป็นตัวหลักให้กับทีมของ เอ็นโซ่ เรสก้า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะ ‘สิงห์บลูส์’ มีแนวรุกเต็มทีม มันก็ต้องพิสูจน์หน่อยว่า การจะขึ้นมาเป็น 11 ตัวจริง คุณต้องมีอะไรดีมากกว่าฟอร์มการเล่น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขมันไม่เคยโกหกใคร เขาทำได้เพียง 1 ประตูจาก 12 เกมใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งส่วนใหญ่ลงสนามมาในฐานะตัวสำรองถึง 9 นัด เพียงแค่ครึ่งฤดูกาล ‘เดอะ บลูส์’ และ เฟลิกซ์ ก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรแยกทางกันในเดือนมกราคม
การย้ายจาก ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ มาอยู่กับ ‘ปีศาจแดงดำ’ ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายหน้าหนาวที่ผ่านมา จึงเป็นประสบการณ์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเกม เซเรียอา การเจรจาเป็นไปอย่างเร่งรีบ และไม่มีเวลาเหลือมากพอที่จะตกลงเงื่อนไขซื้อขาด ทำให้การย้ายทีมครั้งนี้เป็นรูปแบบยืมตัวอย่างเดียว
การเริ่มต้นเป็นไปอย่างสวยหรู ประตูแรกของ เฟลิกซ์ เกิดขึ้นตั้งแต่เกมประเดิมสนามในศึกโคปปา อิตาเลีย การปรับตัวเล่นให้กับ มิลาน น่าจะง่ายขึ้นเยอะ เพราะมีเฮดโค้ช คอนไซเซา ที่เป็นคนบ้านเดียวกัน นอกจากนายใหญ่แล้ว ยังมี ราฟาเอล เลเอา กองหน้าที่เคยเล่นร่วมกัน และรู้จักกันอยู่แล้วในทีมชาติโปรตุเกส
โดยเจ้าตัวหวังว่าจะงัดฟอร์มเก่งกับ มิลาน ให้ได้ เพื่อที่จะเซ็นสัญญาถาวรหลังจากนี้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมคิดว่า ชูเอา เฟลิกซ์ เป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์และจินตนาการสูง เชื่อเลยว่าเขาจะกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนตอนที่เป็นดาวรุ่งอย่างแน่นอน แต่จะได้อยู่แดนมักกะโรนี แบบถาวรหรือไม่นั้น สุดท้ายก็อยู่ที่เจ้าตัวเอง
เขียนโดย LS Sport
มิดไมล์

