เปิดประตูแอนฟิลด์: หงส์ห่วยข้ามปี ตัวเดิมที่เคยดีก็กู่ไม่กลับ
ลิเวอร์พูล ประเดิมนัดแรกของปี 2023 ได้แบบเละยิ่งกว่าโจ๊ก โดยแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 และหากไม่มี VAR เข้ามาช่วย พวกเขาอาจโดนถลุงไปมากถึง 5 เม็ด
สาวก escapeSingleQuotเดอะ ค็อปescapeSingleQuot ทุกหมู่เหล่าต่างเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หลังจากที่ทีมรัก กำชัยชนะมา 4 นัดติดในพรีเมียร์ลีก พร้อมจี้ตูดท็อปโฟร์อยู่ไม่ไกล แต่ว่าความหวังนั้นก็ถูกดับไปตั้งแต่นัดแรกประเดิมปีใหม่
ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้อย่างสัตว์เลี้ยงไม่รับประทานตลอด 90 นาที ที่พบกับ เบรนท์ฟอร์ด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกที่เสียเตะมุมแต่ละครั้งเหมือนกับต้องดวลจุดโทษ เมื่อพวกเขาไม่สามารถรับมือกับรูปแบบการเล่นของเจ้าบ้านได้เลย
ผู้เล่นที่เคยได้รับการยอมรับว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลก อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กลับไม่สามารถสั่งการลูกทีมในการหยุดยั้งเกมรุกของคู่แข่ง หรือจะเซ็นเตอร์อีกคน อิบราฮิม่า โกนาเต้ ก็สร้างความผิดพลาด จนไม่เหลือดีกรีรองแชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อทั้งสกัดเข้าประตูตัวเอง และบังบอลพลาดจนโดนยิงประตูปิดกล่อง
กองกลางของทีมที่เป็นปัญหามาตลอดในช่วงหลัง ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข อาทิ ฟาบินโญ่ ที่เชื่องช้าเกินกว่าที่จะบรรยาย, ติอาโก้ อัลกันตารา ก็ออกบอลพลาดหลายหนเป็นเหตุให้ทีมต้องโดนสวนกลับ
ด้านเกมรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นักเตะที่ค่าเหนื่อยสูงที่สุดในทีม ไม่สามารถแบกความหวังในการทำประตูไว้ได้อีกต่อไป เมื่อกองหลังอีกทีมไม่ต้องพะวงกับกองหน้า ‘หงส์แดง’ รายอื่นๆ เขาจึงถูกประกบติดเป็นตังเม พันแข้งพันขาดิ้นไม่หลุดจากพันธนาการนี้
ส่วนรายชื่ออื่นๆที่ได้ลงเล่นในนัดนี้ คงไม่มีแฟนบอลคนไหนกล้าที่จะฝากผีฝากไข้อะไร โดยเฉพาะ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ขยันสร้างคอนเทนต์ลง Facebook ทุกนัด ซึ่งเกมล่าสุดมีจังหวะยิงเสาสอง ทะลุเสาสาม บอลออกข้างอย่างไร้เรดาร์ในการควบคุม
จนถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ดูห่างไกลจากความหวังในการคว้าโควต้า 4 อันดับแรกจริงๆ แม้จะยังเตะไปได้ไม่ถึงครึ่งฤดูกาล แต่ภาษากายของทุกคนในทีมนั้นบ่งบอกว่า ‘มันจบแล้วครับนาย’
เขียนโดย The Lite Team.