obj
obj

คอลัมน์บอล

ตำนานลูกหนัง : กว่าจะมาเป็นยอดกุนซือ ‘คาร์โล อันเชล็อตติ’ ผ่านอะไรมาบ้าง

ถ้าต้องพูดถึงผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกลูกหนัง ผมคิดว่าตำแหน่งนี้ควรจะต้องมีทำเนียบชื่อของ คาร์โล อันเชล็อตติ นั่นเป็นเพราะเกียรติประวัติการทำงานที่ผ่านมาของเขา มันบ่งชี้ให้เห็นจนยากที่จะหาข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น


จากผลงานอันยอดเยี่ยมที่พา เรอัล มาดริด เถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 15 ยอดกุนซือชาวอิตาเลียน ยังสร้างสถิติให้ตัวเขาเอง ด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ UCL มากถึง 5 สมัย กับ เอซี มิลาน ในปี 2003, 2007 และ เรอัล มาดริด 2014, 2022, 2024 ซึ่งก่อนที่กุนซือรายนี้จะประสบความสำเร็จ เจ้าตัวจะผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้างนั้น ติดตามอ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ


กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย !


ก่อนจะไปติดตามเรื่องราวของ คาร์โล อันเชล็อตติ กันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ


ในสมัยที่ยังเป็นผู้เล่น คาร์โล อันเชล็อตติ คือนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยตัวเขาได้สร้างชื่อกับสโมสรชื่อดังในศึกเซเรียอา อย่าง อาแอส โรม่า และ เอซี มิลาน ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดไปในปี 1992


หลังจากที่เจ้าตัวอำลาผืนหญ้าไป เขาก็เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเป็นโค้ช โดยเริ่มจากเป็นผู้ช่วยของ อาร์ริโก้ ซาคคี่ ในทีมชาติอิตาลี ซึ่งภายในแคมป์ ‘อัซซูรี่’ นี่เอง ทำให้ อันเชล็อตติ ได้เรียนรู้และฝึกฝนแท็กติกต่าง ๆ เป็นเวลา 3 ปี จนเมื่อวิชาแกร่งกล้ามากพอ เขาก็ได้ลาออกจากการเป็นผู้ช่วยเพื่อหาความท้าทายใหม่ ๆ


งานแรกของ ‘อันเช่’ ในฐานะผู้จัดการทีมเต็มตัวคือ เรจเจียน่า สโมสรระดับเซเรียบี เมื่อปี 1995 และใช้เวลากับที่นี่เพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก็สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้ทันที โดยจบในอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน


จาก 1 ซีซั่นกับ เรจเจียน่า สู่ทีมที่ใหญ่กว่าเดิมกับ ปาร์ม่า โดยเจ้าตัวได้สร้างนักเตะซูเปอร์สตาร์อย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จานฟรังโก้ โซล่า เป็นต้น ด้วยแผนการเล่น 4-4-2 ซึ่งเขาสามารถพาสโมสรจบด้วยสถิติใหม่อันดับ 2 ของตาราง และได้เดบิวต์ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย


ต่อมาในปี 1999 เจ้าตัวก้าวสู่งานที่ท้าทายกว่าเดิมกับ ยูเวนตุส สโมสรระดับยักษ์ใหญ่ของ อิตาลี ผลงานสำคัญของเขาคือ การดัน ซีเนอดีน ซีดาน จนแจ้งเกิดกลายเป็นสุดยอดมิดฟิลด์ระดับโลก แต่ก็ล้มเหลวในฟุตบอลลีกและบอลถ้วยเช่นเคย


อีก 2 ปีต่อมา อันเชล็อตติ ย้ายไปคุมสโมสรเอซี มิลาน และที่นี่เองทำให้เขาเริ่มมีเสียงมากขึ้น โดยได้สร้างทีมที่ดีที่สุดยุคหนึ่งของทัพ ‘ปีศาจแดงดำ’ ด้วยการคว้าแชมป์เซเรียอา, โคปป้า อิตาเลีย อย่างละ 1 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 2 สมัย หลังจากยุติช่วงเวลา 8 ปีที่เมืองมิลาน เจ้าตัวก็ได้ไปคุมทีมในลีกใหญ่ยุโรปทั้ง เชลซี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, นาโปลี, เอฟเวอร์ตัน และกลับมาที่ ‘ราชันชุดขาว’ ในปัจจุบัน


ซึ่งถ้าดูจากทีมที่กล่าวว่า ดูเหมือน เอฟเวอร์ตัน จะเป็นสโมสรที่นายใหญ่รายนี้ประสบความสำเร็จน้อยที่สุด โดยเขาพา ‘ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน’ จบเพียงกลางตารางคะแนนของ พรีเมียร์ลีก เท่านั้น ใน 2 ฤดูกาลที่นั่งเก้าอี้กุนซือ


แม้ว่า ผลงานของเจ้าตัวกับทีมดังลุ่มแม้น้ำเมอร์ซี่ย์ไซด์ จะไม่ได้ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม หรือหลายคนเริ่มมองในแง่ลบแล้วว่า เขาได้กลายเป็นเทรนเนอร์ระดับกลาง ๆ ไปแล้ว แต่ เรอัล มาดริด ภายใต้การบริหารของ ฟลอเรนติโน เปเรซ ต้องการหาคนที่เข้าใจบรรยากาศของสโมสร และสามารถควบคุมห้องแต่งตัวได้ ชื่อของ อันเชล็อตติ จึงได้รับการชูมือจากฝ่ายบริหารยักษ์ใหญ่แห่งแดนกระทิงดุ


การทำงานของกุนซือรายนี้ที่ เรอัล มาดริด รอบที่ 2 ว่ากันว่าไม่ได้มีอะไรที่สลับซับซ้อน เน้นความเรียบง่ายเข้าว่า โดยเจ้าตัวพยายามปรับจูนทุกความต้องการให้ลงตัวมากที่สุด ไม่ได้มีการปรับรื้อโครงสร้างการเล่นเกมรับเกมรุก แล้วปล่อยให้นักเตะระดับ ‘สตาร์’ ปล่อยของออกมาอย่างอิสระ โดยไม่จำกัดกรอบการเล่น


นอกจากนี้ อันเชล็อตติ ยังมีแรงผลักดันสำคัญจากการที่ตัวเขายังไม่สามารถพา ‘โลส บลังโกส’ คว้าแชมป์ลาลีกา ได้เสียที จึงทำให้การคุมทีมในฤดูกาล 2021/22 จึงมุ่งมั่นอย่างมากที่จะปิดจ๊อบพาสโมสรแห่งนี้คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 35 ให้ได้ และความสำเร็จที่เทรนเนอร์รายนี้ทำได้ ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่คว้าแชมป์ครบ 5 ลีกใหญ่ของยุโรป


ตลอดทั้ง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่า เรอัล มาดริด ของ อันเชล็อตติ ไม่ได้มีการสร้างแท็คติกอะไรใหม่ ๆ เหมือนกับผู้จัดการทีมและเฮดโค้ชรายอื่นของยุโรป แต่สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ‘อันเชล็อตติ ก็คือ อันเชล็อตติ’ เขาเป็นคนที่ยืดหยุ่นที่สุดในบรรดากุนซือ ลองเล่นมาแล้วหลายรูปแบบ ไม่เคยใช้ระบบที่ตายตัวสักที และปรับแท็คติคตามนักเตะทุกที่ที่ไปคุม


จนในที่สุด ปี 2024 อันเชล็อตติ ก็พา เรอัล มาดริด เถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 15 ได้สำเร็จ และได้รับการขนานนามว่าเป็น ผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกลูกหนัง


การคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครบทั้ง 5 ลีกใหญ่ในยุโรป และเข้าชิงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 5 ครั้ง ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เป็นการใส่ใจในทุกรายละเอียด การวางกลยุทธ์ที่ถูกต้อง และการดึงศักยภาพสูงสุดจากนักเตะออกมา ซึ่ง ‘คาร์โล อันเชล็อตติ’ เท่านั้นที่ทำได้


เขียนโดย LS Sport 

ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง




ติดตามข่าวสารฟุตบอลต่างประเทศและคอลัมน์ฟุตบอล ข้อมูลเที่ยงตรง เข้าถึงข้อมูลร้อนเร็วทันเหตุการณ์จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ รายละเอียดเกี่ยวกับเกม ผลการแข่งขัน, สถิติของทีม, ข่าวเกี่ยวกับนักเตะและทีมรัก, ทรรศนะ และบทวิเคราะห์, และข้อมูลอื่น ๆ จากทีมชั้นนำจากทั่วโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และอื่นๆ อีกมากมาย ข่าวสารบอล ต้องเว็บไซค์ของคนบ้าบอล ข่าวสดยุคใหม่ 24 ชั่วโมง ต้อง lockscore.com เท่านั่น

icon
icon

0'

Aston Villa

1

icon

Leeds United

2

icon LIVE NOW