เงื่อนไขส่วนตัวถูกมองว่าไม่มีปัญหาติดขัดอะไร ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้การทำงานที่รวดเร็วของ เอดู กาสปาร์ ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า ก็ต้องการเสริมทัพให้เสร็จสิ้นก่อนบินไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล รอจนกระทั่ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ปิดฉากภารกิจในรอบชิงชนะเลิศยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก และรอจนนักเตะกลับมาหลังไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก และพวกเขายื่นข้อเสนอครั้งแรกที่มูลค่า 65 ล้านปอนด์ บวกออฟชั่นอีก 15 ล้านปอนด์ทันที

ข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธทันควัน แต่ทั้งสองสโมสรยังคงมีการหารือกันต่อ โดยมีรายงานลับออกมาว่าผู้บริหารของพวกเขาได้พูดคุยกันในระหว่างประชุมบอร์ดบริหารของพรีเมียร์ลีกถึงเรื่องโครงสร้างในการจ่ายเงิน ซึ่งถูกยกมาเป็นเงื่อนไขสำคัญในดีลนี้

ถัดจากการพูดคุยหลังจากนั้นอีก 6 วัน "ทีมปืนใหญ่"ยื่นข้อเสนอรอบที่ 2 ด้วยตัวเลข 75 ล้านปอนด์ บวกออฟชั่นอีก 15 ล้านปอนด์เหมือนเดิม และเป็นไปตามที่คาดพวกเขาถูกปฏิเสธอีกแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าข้อเสนอของในครั้งนี้มีความใกล้เคียงกับตัวเลขที่"ทีมขุนค้อน"ยอมรับได้

ถึงตรงนี้ความยากลำบากเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระโดดลงแข่งขันด้วยตัวเลขมูลค่ามากถึง 80 ล้านปอนด์ บวกออฟชั่น 10 ล้านปอนด์ ทำให้สโมสรเริ่มหันเหกลับไปมองแผนสำรองอย่าง มอยเซส ไคเซโด้ อีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละครับ "คนที่ไม่ใช่ ทำยังไงมันก็ไม่ใช่อยู่ดี"

บอร์ดบริหารเปิดวาระการประชุมอีกครั้ง โดยสรุปใจความสำคัญถึงความมุ่งมั่นที่พวกเขาต้องการตัวของ ดีแคลน ไรซ์ แต่การที่"ทัพเรือใบสีฟ้า"เข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ มันจะสร้างความสั่นสะเทือนกับความคิดของตัวนักเตะหรือไม่?

ตอนนี้ อาร์เซนอล เริ่มรู้แล้วว่าพวกเขาขยับเข้าใกล้ตัวเลขที่ เวสต์แฮม ต้องการ และเทหมดหน้าตักด้วยข้อเสนอที่ทำให้ ซิตี้ ต้องถอนตัวในดีลนี้จำนวน 105 ล้านปอนด์ ซึ่งมันเพียงพอที่จะทำให้การเจรจาเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับเงื่อนไขการจ่ายเงิน และความพยายามในครั้งนี้ก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีจนนำมาสู่สถิติค่าตัวผู้เล่นที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ อาร์เซนอล

แม้ว่าสโมสรต้องยอมจ่ายเงินแบบทะลุเพดานสำหรับนักเตะที่ไม่เคยสัมผัสเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาก่อน แต่การลงทุนครั้งนี้โคตรคุ้มค่าแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทุกอย่างที่ ‘ไรซ์‘ มอบให้ถูกคำนวณไว้อย่างถูกต้อง 100% นี่แหละคือการยกระดับทีมของแทร่!