เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาลุ้นแชมป์ในนัดสุดท้ายโดยเกิดในปี 2011/12, 2013/2014, 2018/2019, 2021/22 และ ปัจจุบัน 2023/24 บ่งบอกถึงความเก๋าในการปิดเกมเพื่อคว้าถ้วยรางวัล ถ้าพวกเขามีความได้เปรียบก่อนเกมสุดท้าย พวกเขาจะทำได้เสมอ

ครั้งหนึ่งพวกเราเคยปาดหน้า ‘ปีศาจแดง’ คว้าแชมป์ ในนาทีที่ 93.20 ด้วยการยิงประตูของ กุน อเกวโร่ แต่อีก 3 ครั้งต่อมาพวกเราได้ทำความเจ็บปวดให้กับเหล่า ‘หงส์แดง’ มารอบนี้ถึงคิวของ อาร์เซน่อล ที่ได้มารับรู้ความโหดเหี้ยมของบอสใหญ่ชามสเปนรายนี้อีกครั้ง หลังจากปีที่แล้ว ‘ปืนใหญ่’ ได้สะดุดในช่วงสัปดาห์ที่ 32 แต่ปีนี้พวกเขาทำได้ดีขึ้นแต่ก็ยังดีไม่มากพอในการคว้าแชมป์

แม้ใครหลายคนจะบอกว่าการเป็นแชมป์ของ แมนฯ ซิติ้ จะดูน่าเบื่อ แต่เชื่อเถอะว่าทุกคนก็อยากได้ในสิ่งที่ เป๊ป ทำให้กับเรือใบตลอด 8 ปีที่ผ่านมา และก็มีแฟนบอลหลายคนที่อาจจะยอมกลืนน้ำลายตัวเองถ้าหากพวกเขามีโอกาสได้ตัว กวาร์ดิโอล่า มาร่วมงาน ต่อให้หลายคนมีอคติและมองว่าผู้จัดการทีมชาวสเปนใช้เงินเยอะในการสร้างทีมแต่พอมองไปดูที่ถ้วยรางวัลก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคุ้มค่าในการลงทุน

จะดีแค่ไหนถ้าประวัติศาสตร์ถูกขีดเขียนในยุคที่พวกเราได้ดูบอล ไม่ว่าจะเป็นทีมแรกที่ได้ 100 คะแนน, คว้า 4 ถ้วยทั้งหมดบนเกาะอังกฤษ, ทริปเปิ้ลแชมป์ และ การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 ปีติดต่อกัน ทุกอย่างที่กล่าวมาผมเชื่อเหลือเกินว่าพวกคุณได้เห็นกับตาของตัวเองไม่ใช่แค่ได้ฟังจากเรื่องเล่าอีกต่อไป

ในฐานะแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ต้องสารภาพว่างานของพวกเรามันยังไม่จบ อีกสถิติหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหากพวกเราสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้สำเร็จ ก็คือทีมแรกที่สามารถคว้าทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกและฟุตบอลถ้วยได้สำเร็จ และผมมั่นใจเหลือเกินว่า เป๊ป จะสามารถทำได้…

เขียนโดย Aek Dek Dee

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่น

ใหม่ 24 ชม.