เพราะมีข่าวออกมาว่า เชียงใหม่ เอฟซี มีโอกาสที่จะถูกปรับตกชั้นลงไปเล่น ไทยลีก 3 หลังไม่ได้ส่งคลับ ไลเซ่นซิ่ง ในด้านของการเงิน จึงไม่ผ่านข้อบังคับของลีก 

ในระยะเวลาแค่เพียงครึ่งเดือนแฟนบอล ‘พยัคฆ์ล้านนา’ อยู่ในอารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ เชียงใหม่ เอฟซี ในฤดูกาลนี้ 

ช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ทีมจากแดนล้านนาหลุดออกจากเป็นทีมลูกของ ‘บีจี ปทุม’ หลัง ‘บิ๊กแซน’ ยศเมธา จันทรวิโรจน์ อาสาเข้ามาบริหารทีมต่อท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอล เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เชียงใหม่ เอฟซี กลายเป็นแค่ทีมเก็บตกนักเตะที่ไม่ได้เล่น ทำให้ได้มาแต่พวกเยาวชนที่รอโอกาส จนทำให้เชียงใหม่ กลายเป็นเพียงทีมอยู่ไปวันๆ ในลีกพระรองของไทย 

ผู้บริหารใหม่ มาพร้อมกับความตื่นเต้นใหม่ๆ ไล่ตั้งแต่การจับมือกับ Kelme ในการออกแบบเสื้อแข่งที่สวยใช้ได้ ไปจนถึงการดึงตัวผู้เล่นทั้ง ชาริล ชับปุยส์, จักรพันธ์ พรใส สองกองกลางดีกรีทีมชาติไทย หรือ ยู บยุง-ซู ดาวยิงชาวเกาหลีใต้ ที่เคยซัดหลัก 20 ประตูใน ไทยลีก 2 มาแล้ว 

ชนะรวด 3 นัดแรก ไม่แพ้ใคร 7 นัดติดต่อกัน ยิงรวมไป 18 ประตู ส่งทีมขึ้นไปรั้งจ่าฝูงแบบสวยๆ แถมยึดสถิติยิงประตูมากที่สุดในลีก แน่นอนเปิดหัวสวยแบบนี้ ‘พยัคฆ์ล้านนา’ มองไกลถึงการกลับไปเล่นบนไทยลีก อีกครั้ง หรืออาจจะไปถึงการลุ้นแชมป์เลยทีเดียว 

แต่หลังจากการพ่ายแพ้นัดแรก เชียงใหม่ ก็จัดการปลดเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น อย่าง จุน ฟุคุดะ โดยทันที แต่ถ้าให้ลงลึกกว่านี้ จุน ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับแฟนบอลตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา และมีข่าวออกมาว่าอาจจะไม่ได้ไปต่ออยู่ตลอดเวลา

พร้อมกับตั้ง อัลเบิร์ต การ์เซีย เข้ามาคุมทัพทันที แต่อยู่ได้ไม่นานราวๆ 10 นัด ก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในช่วงเลกสอง โดยตั้ง ปฏิภัทร รอบรู้ ที่คุ้นเคยกับลีกพระรอง และเคยพาทีมอย่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นมาแล้ว

แต่ ‘โค้ชบอส’ คุมทีมได้เพียง 7 นัด ดันโดนเหตุการณ์ฉาว ไปไล่ผลักผู้ช่วยผู้ตัดสินเพื่อขอคำอธิบายหลังจบเกม จนต้องลาออกไป ด้วยสถิติชนะ 3 แพ้ 4 

สิ่งที่ต้องการสื่อคือ พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงเรื่องเฮดโค้ชอยู่ แต่ เชียงใหม่ เอฟซี ก็ยังประคองตัวเองอยู่ในโซนลุ้นเลื่อนชั้น หรือโซนไปเพลย์ออฟ ได้ราวๆ อันดับ 4-6 ของตาราง เอาง่ายๆ ก็เอาตัวรอดไปตามเป้าหมายได้อยู่ 

แต่ในขณะเดียว ก็มีข่าวลือแบบกลิ่นตุๆ ออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงท้ายฤดูกาล กับการค้างเงินนักเตะ โดยเฉพาะตัวต่างชาติ ในหลายเกม มีการส่งผู้เล่นไทยล้วนเป็น 11 ตัวจริง  ยู บยุง-ซู ไม่ได้ลงสนามเลยในช่วงเลกสอง 18 เกมหลังได้สัมผัสเกมเพียง 161 นาที แม้ว่าใน 15 นัดแรกจะซัดไป 9 ประตูก็ตาม

เหตุการณ์สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ พวกเขาเปิดขายเสื้อฉลองครบ 25 ปี ให้แฟนบอลได้จับจองได้ แต่แฟนบอลต้องรอร่วมครึ่งปี ถึงจะได้เสื้อ สโมสรโดนทาง Kelme กล่าวหาว่าไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลงทางการค้า ทั้งๆ ที่เสื้อผลิตเสร็จตั้งแต่ 3 เดือนแรก ซึ่งก็คาดว่าสโมสรไม่ได้จ่ายเงินค่าผลิตเสื้อ จึงทำให้ส่งมอบเสื้อให้ไม่ได้ แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็มาได้ใช้เสื้อครบรอบ 25 ปีในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 

ล่าสุดตามที่กล่าวไปช่วงแรก มีสื่อรายงานว่า เชียงใหม่ เอฟซี ไม่ได้ส่งใบอนุญาตส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน หรือ คลับ ไลเซนซิ่ง ในด้านการเงิน ทำให้ไม่มีสิทธิส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันไทยลีก หมายความว่าพวกเขาจะต้องถูกปรับตกชั้นลงไปเล่น ไทยลีก 3 ในฤดูกาลหน้า แต่ก็มีโอกาสที่จะแย่กว่านั้น

เพราะ ‘พยัคฆ์ล้านนา’ ยังต้องส่ง คลับ ไลเซนซิ่ง ให้ผ่านมาตรฐานของ ไทยลีก 3 อีกครั้ง โดยมีระยะเวลาส่งถึงแค่สิ้นเดือนนี้เท่านั้น ซึ่งถ้าไม่ทัน ก็ร่วงยาวๆ ลงไปเล่นในระดับ เซมิโปร หรืออเมเจอร์ลีก เลยทีเดียว 

15 วันจากการลุ้นขึ้นไปลีกสูงสุด สู่โอกาสร่วงตกชั้นยาวๆ เนื่องจากไม่ผ่านข้อบังคับสำคัญ ทำให้เป็นช่วงเวลาที่ยากจะทำใจของแฟนบอล เชียงใหม่ เอฟซี รอดูกันต่อว่า บิ๊กแซน จะปล่อยจอยทิ้งทีมให้ตายไป หรือมีผู้ใหญ่ใจดีเข้ามากอบกู้ได้แบบทันเวลา

เขียนโดย The Lite Team.

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.