การครองบอลยังคงเป็นจุดเด่นของทีมแม้ต้องเล่นในสนามที่มีแรงกดดันสูงและตัวเลข 62% ก็เป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวกับความแม่นยำในการผ่านบอลที่สูงถึง 91% เมื่อเทียบกับ เรอัล มาดริด แล้วที่ครองบอลได้น้อยกว่าแต่กลับมีเปอร์เซ็นการผ่านบอลเพียง 86% เท่านั้น
การยิงประตูทั้ง 3 ลูกเกิดที่นอกเขตโทษซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะปกติจะเน้นการเข้าทำที่แทบจะอยู่ในกรอบเขตโทษเสมอ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพาทีมบุกมาเสมอถึงสนามเบอร์นาบิว ที่หลายคนบอกว่าน่ากลัว แม้จะต้องเล่นแบบปิดหลังคาก็ไม่หวั่น
การขาดผู้เล่น 3 คนสำคัญในสนามเกมนี้คือ เควิน เดอ บรอน์, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ เอแดซอน ก็อาจส่งผลกระทบเล็กน้อยให้กับทีม โดยเฉพาะการเสียลูกที่ 2 ของ โรดรีโก้ ที่ดูเหมือน มานูเอล อคานจี จะมีความเร็วไม่มากพอที่จะไปวิ่งแย่งบอลมาได้ ในส่วนของผู้รักษาประตูก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่มีผลเท่าไรเพราะ ออเตก้า ก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน ในส่วนของ โควาซิซ ที่น่าจะเป็นคนลงมาแทน คิงเคฟ ก็ดูเหมือนว่าจะทำผลงานไม่ดีมากนัก แฟนบอลหลายคนก็รู้สึกเสียดายที่กองกลางจอมทัพไม่ได้ลงในเกมนี้
และอีกหนึ่งคนที่ขอชมจากใจเลยคือ แจ็ค กรีลิซ ที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่องมา 2 เกมติดต่อกันหลังจากที่หายจากการบาดเจ็บ แม้จะทำได้เพียง 1 แอสซิสต์ แต่ด้วยการเล่นที่สามารถดึงนักเตะของ เรอัล มาดริด มาได้หลายคนจนทำให้เพื่อนเล่นกันง่าย บวกกับการเรียกใบเหลืองใน 2 นาทีแรกให้กับ โอเรเลียง ชูอาเมนี จนทำให้เจ้าตัวไม่สามารถลงเล่นในนัดต่อไปได้ และเป็นจุดเริ่มต้นของประตูขึ้นนำจาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ก็เพียงพอที่ให้ บอสเป๊ป พอใจกับผลงานตรงนี้
ปิดท้ายที่หลายคนถามถึง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่หายตัวไปอีก 1 เกม และเป็นเกมใหญ่เสมอ อยากจะบอกตรงนี้ว่านักเตะที่มาประกบเจ้าตัวก็ถูกดึงออกจากเกมเช่นกัน และคนนั้นคือ รูดิเกอร์ ดังนั้นเมื่อแผงหลังของ ราชันชุดขาว หายไป 1 ตำแหน่ง ก็เป็นการเปิดพื้นที่ให้ทีมเรามีโอกาสยิงไกลมากขึ้น
ในฐานะแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่าเราสามารถทำได้ตามแผนแล้วคือการบุกไปเสมอเป็นอย่างน้อย หลังจากนี้เมื่อกลับมาเล่นในบ้านก็จำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ แม้หลายคนจะบอกเป็นงานง่ายแต่เชื่อเถอะว่าการเจอ ‘ราชันชุดขาว’ เป็นงานยากเสมอ อย่าประมาทเด็ดขาด…
เขียนโดย The Lite Team
LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.