ข้างบ้านเรือใบ: ไม่กล้าฝันถึง แต่ ‘เดจาวู’ ชวนให้ต้องฝัน
หลังจากที่ผลการจับสลากของฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกออกมา ก็ทำให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกลับมาจากปีที่แล้วตอนที่เราคว้า ‘ทริปเปิ้ลแชมป์’ ด้วยการเจอ 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปทั้ง เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค แต่ฤดูกาลนี้อาจจะสลับตำแหน่งในการเจอนิดหน่อย
จะว่าหนักก็หนักแต่ปีก่อนก็เป็นแบบนี้ ถ้าจะมีสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปก็คือฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่เหมือนเดิม แต่เมื่อกลับมามองเรื่องที่ดีก็คือทีมเราได้เล่นเป็นเจ้าบ้านในเกมที่ 2 และ ‘ราชันชุดขาว’ ยังไม่เคยมาเอาชนะได้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เลยสักครั้ง อาจจะพอทำให้อุ่นใจบ้าง
อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นข้อได้เปรียบให้กับเรา คือการที่มีนักเตะถึง 4 รายสุ่มเสี่ยงต่อการโดนแบนในเกมนัดที่ 2 ได้ โดยมีรายนามดังนี้ จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์, เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า และ โอเรเลียง ชูอาเมนี แต่ละคนสำคัญกับทีมทั้งนั้น
และถ้าหากเราสามารถผ่านรอบนี้ไปได้ ก็ต้องไปลุ้นว่าจะไปเจอ บาเยิร์น มิวนิค อีกครั้งหรือไม่ ซึ่งทางด้าน ‘เสือใต้’ ก็ถือว่าเจองานหนักเช่นกันที่ต้องไปพบ อาร์เซน่อล ซึ่งทั้ง 2 ทีมก็ไม่ใช่งานง่ายของเรามากนักเมื่อเทียบกับทีมที่อยู่อีกฝั่งของสายการแข่งขัน และอย่างที่บอกว่า ‘เดจาวู’ เพราะคู่แข่งแทบจะเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือถ้าเราได้เข้าชิงอาจจะได้เจอทีมใหม่ๆ เท่านั้นเอง
ส่วนเอฟเอคัพ การที่เราได้เจอกับ เซลซี และรอบชิงอาจได้พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกรายการที่ดูไม่ต่างจากปีที่แล้วเท่าไร ซึ่ง ณ จุดนี้ทีมของ เมาริซิโอ โปเชตติโน ก็ทำแสบกับเราไม่ใช่น้อยด้วยผลเสมอทั้ง 2 เกมในพรีเมียร์ลีกและส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถขึ้นจ่าฝูงได้ในปัจจุบัน แต่ยังเชื่อเสมอในเรื่อง ‘ความโชคดีในการพบกันครั้งที่ 3’ บวกกับความแค้นของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าสามารถผ่านไปได้
ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่าโอกาสที่เราจะคว้าทริปเปิ้ลแชมป์อีกครั้งก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ แต่อันดับแรกคือหลังจากเบรกทีมชาติ ทีมต้องกลับมาเล่นให้อยู่ในฟอร์มที่ดีให้เหมือนทุกฤดูกาลที่เราสามารถแสดงศักยภาพอย่างยอดเยี่ยมแล้วพาทีมเป็นแชมป์อีกครั้ง…
เขียนโดย Aek Dek Dee
The Lite Team