และใช่ครับ ช่วง 45 นาทีแรกแม่งเป็นอย่างที่ตัวเองคิดเลยจริง ๆ แม้ว่าจะขึ้นนำไปก่อนจากประตูของ สก็อต แม็คโทมิเนย์ แต่ก็มาโดน ‘หงส์แดง’ ยิงได้รัว ๆ 2 ประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก ก็ทำให้ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่า “อีกแล้วหรอวะ”

ครึ่งหลังก็เริ่มกลับมาเตะ และเกมนี้ต้องยอมรับเลยว่าค่อนข้างเปิดเกมแลกกันบ่อยครั้ง และในช่วงเวลาที่ ‘แฟนผี’ กำลังท้อใจ ก็มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น โดยชายที่ชื่อว่า อันโตนี่ หมุนตัวซัดด้วยขวา พาทีมตีเสมอก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่า เฮจนเมียตื่นมาด่าอ่ะครับ

ไม่น่าเชื่ออีกครั้งครับในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ มาร์คัส แรชฟอร์ด จับบอลลงอย่างเนียน เหลือเพียงแค่ตัวเขากับผู้รักษาประตู เอี้ยวตัวบรรจงแปด้วยขวา แล้ว… หลุดออกนอกกรอบครับ นี่ก็เมียตื่นมาด่าอีกครั้งครับ

ตามธรรมเนียมบอลถ้วยเตะนัดเดียวจบครับ ก็ไปต่อเวลาพิเศษกันอีกครึ่งชั่วโมง และก็เป็นทาง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่ซัดโป้ง พาทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เฮกันอีกครั้งในช่วงท้ายของครึ่งแรก (อีกแล้ว)

แต่แล้วครับผมมม อีตาแรชชี่ที่พลาดไปในช่วงเวลาปกติ ก็มายิงประตูตีเสมอให้กับทีมได้ ก่อนที่จะเป็น อาหมัด ดิยัลโล่ ยิงเสียบมุมเสาขวามือ สนั่นลั่นบ้านเลยสิครับ อันนี้เมียไม่ด่าละครับ ลุกขึ้นตีเลยครับ

แน่นอนว่าก็ต้องให้เครดิตกับทาง เอริก เทน ฮาก ที่กล้าเปลี่ยนตัวแปลก ๆ ขัดใจแฟนบอล อย่างเอา อันโตนี่ มาแทน ฮอยลุนด์ ถอดทาง วาราน ออกแล้วส่ง ดิยัลโล่ เข้ามา แต่ในเมื่อตัวเขาสามารถพาทีมเก็บชัยชนะมาได้ ก็สมควรที่จะต้องได้รับคำชื่นชมกันบ้างแหละ แฟร์ ๆ กับตาโล้นกันหน่อยละกัน

ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับเลยว่า เราไม่ได้เห็นบอลสนุก ๆ แบบนี้ใน ‘แดงเดือด’ มานานมากแล้ว หลังจากชนะแบบจืด ๆ แพ้แบบเละเทะ ก็ได้แต่หวังว่าจะสานต่อโมเมนตั้มแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งใน พรีเมียร์ลีก รวมถึงในรายการนี้ จนสามารถคว้าแชมป์มาให้แฟนบอลได้เชยชมกันบ้างแล้วกัน

เขียนโดย Uncle Bear

The Lite Team.