แต่ไม่น่าเชื่อครับ เริ่มเกมมาได้เพียง 8 นาที เจ้าถิ่นแห่ง เอติฮัด ก็ต้องมาเงียบกริบกันทั้งสนามจากลูกยิงผีจับยัดของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เหมือนจะเป็นการยิงเพื่อตอบโต้กับเสียงวิจารณ์ที่มีมาตลอดทั้งซีซั่น

ครับ.. ทั้งเกมแม่งมีแค่นั้นแหละครับ

หลังจากที่เยี่ยวเหนียวด้วยสกอร์ที่ขึ้นนำ 1-0 ตลอดครึ่งเวลาแรก แล้วหลังจากนั้นก็ตามคาด ‘เรือใบสีฟ้า’ ก็มากระทุ้งคืนแบบทบต้นทบดอกจากความยอดเยี่ยมของ ฟิล โฟเด้น ถึง 2 ประตูและมาปิดท้ายด้วย ‘ไอ้โหดนอร์เวย์’ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ จบเกมไปด้วยสกอร์ 3-1 ‘ผีแดง’ ก็หงอยกันไปครับ

นับเป็นความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันในลีกของ เอริก เทน ฮาก หลังจากที่สัปดาห์ก่อน ‘คาบ้าน’ ไปให้กับ ฟูแล่ม แบบทุเรศทุรังสายตาแฟนบอล และส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหลังอันดับ 4 อย่าง แอสตัน วิลล่า ไปแล้วถึง 11 คะแนน ซึ่งดูแล้วความหวังเลือนรางเหลือเกินกับการที่เราจะขึ้นไปอยู่ตรงจุดนั้น

แม้ว่าโควต้าแบบใหม่ของ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้ายังไม่แน่ชัดว่าทีมจากเกาะอังกฤษจะได้โควต้าถึง 5 ทีมหรือไม่ แต่เมื่อดูจากอันดับที่ 5 บนตารางคะแนนแล้ว เราก็ยังห่างจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยู่ถึง 6 คะแนน และพวกเขายังแข่งน้อยกว่า 1 นัดอีกด้วย

ก็ยังถือว่ามีความหวังอยู่แหละ (มั้ง) สำหรับฤดูกาลหน้าที่จะได้ไปเล่นใน ‘ถ้วยหูโต’ กับเกมที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วกันไป เดินหน้าสู้ไปต่อกันทีละเกม เก็บ 3 คะแนนมาให้ได้มากที่สุด

ส่วนใน เอฟเอคัพ ที่รอบต่อไปจะต้องพบกับ ‘หงส์แดง’ ก็อยากให้เราเป็นส่วนหนึ่งของการดับความหวังในการคว้า 4 แชมป์เพื่ออำลา เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ได้ รวมถึงเพื่อ ‘ปีศาจแดง’ เองก็จะได้มีลุ้นกับการมีถ้วยรางวัลติดไม้ติดมือในฤดูกาลนี้มากับเขาบ้างนะ สาธุ…

เขียนโดย Uncle Bear

The Lite Team.