ทุกวันนี้แฟนบอลแทบจะเป็นเหมือน ‘ไบโพลาร์’ ไปทุกทีด้วยผลงานของทีมที่ไม่สม่ำเสมอทั้งแนวรุกและแนวรับ บางทีก็เหมือนจะคม บางทีก็เหมือนดวงตกที่ยิงเท่าไรก็ไม่เข้า เช่นเดียวกับกองหลังที่พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา ไม่ว่าจะเจอกับทีมใหญ่หรือทีมเล็กก็ตาม

แต่พอเรามาจำแนกวิเคราะห์แล้วจะพบว่า เกมเมื่อคืนที่เราสามารถชนะได้ถล่มทลายส่วนหนึ่งก็เพราะว่าทีมฝั่งตรงข้ามไม่ได้ลงสนามเพื่อเล่นเกมรับซึ่งแตกต่างจากทีมอื่นๆก่อนหน้า ทำให้ ‘คู่หูนรกแตก’ อย่าง ฮาลันด์ และ เดอ บรอยน์ ทำผลงานได้อย่างดีในเกมแบบนี้ โดยกองหน้าชาวนอร์เวย์ยิงไปถึง 5 ประตูในขณะที่ คิงเคฟ ทำไปถึง 4 แอสซิสต์

เมื่อมีข่าวดีก็ย่อมมีข่าวร้ายตามมาเสมอไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แจ็ค กรีลิซ ที่ได้โอกาสกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงได้รับอาการบาดเจ็บตั้งแต่กลางครึ่งแรก ซึ่งเหมือนจะอาการไม่ดีมากนักเพราะหลังจากที่เจ้าตัวออกจากสนามไปที่ซุ่มม้านั่ง เจ้าตัวก็ได้ร้องไห้ออกมาโดยเอาเสื้อมาคลุมปกปิดไว้

อีกเรื่องหนึ่งที่ยังเป็นปัญหาเหมือนเดิมและโชคดีที่ไม่เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันหลังจบเกม นั่นคือการเสีย 2 ประตูในช่วงท้ายครึ่งแรกกับต้นครึ่งหลัง จนทำให้ผลต่างประตูเหลือเพียงประตูเดียว ก่อนที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กดรัว 3 ประตูรวดจนทีมชนะ 2-6 ลองคิดเล่นๆว่าถ้าเราเจอกับทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล หรือ อาร์เซน่อล การที่ทีมโดนกดดันไล่ตามมาได้นั้น อาจจะจบลงที่ผลเสมอหรือแพ้ก็ได้ ดังนั่นอยากให้นักเตะทุกคนมีสมาธิมากกว่านี้ แม้ว่าจะยิงประตูทิ้งห่างถึง 3 ลูกแล้วก็ตาม ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ก็ได้แต่หวังว่าทีมจะสามารถนำชัยชนะในนัดนี้และรักษาโมเมนตั้มนี้ เพื่อไปเก็บผลการแข่งขันที่ดีในนัดถัดๆ ไป เพราะเราต้องเจองานหนักในเดือนมีนาคม ถ้าผ่านไปได้เราอาจจะมีหวังถึงแชมป์ได้ทุกรายการ…

เขียนโดย Aek Dek Dee

The Lite Team