จากเกมเมื่อคืนที่ ‘พลพรรคทัพปืนโต’ บุกไปพ่าย เอฟซี ปอร์โต้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นั่นคือความปราชัยครั้งที่ 5 ติดต่อกันในรอบน็อคเอ้าท์ โดยไล่มาตั้งแต่

❌ 2016 แพ้ บาร์เซโลน่า 0-2 (เลกแรก)

❌ 2016 แพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 (ตกรอบ)

❌ 2017 แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-5 (เลกแรก)

❌ 2017 แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-5 (ตกรอบ)

❌ 2024 แพ้ ปอร์โต้ 0-1 (เลกแรก)

หากแต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเฉพาะเกมนัดล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า "กลุ่มนักเตะชุดนี้ยังคงอ่อนหัดนัก" แม้จะมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสักแค่ไหนในพรีเมียร์ลีก แต่เวลาต้องออกไปลงสนามในรายการระดับทวีปมักจะกลับบ้านมาด้วยสภาพตุ๊บปั๊ดตุ๊บเป๋ทุกที

อาร์เซนอล สร้างรูปเกมตามแบบฉบับที่ถนัดเช่นเดิม โดยครองบอลไว้กับตัวและพยายามสร้างโอกาสในการเข้าทำ ซึ่งเกมนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ลูกทีมของ อาร์เตต้า ครองบอลได้มากกว่าคู่แข่งถึง 65% และผ่านบอลมากกว่าเป็นเท่าตัว

แต่หากเป็นแฟนบอลอย่างผมที่ได้แหกขี้ตาตื่นขึ้นมานั่งหย่อนตูดอยู่หน้าจอ จะเห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่ได้ใกล้เคียงกับการลุ้นทำประตูเลยสักนิด เหล่าบรรดานักเตะเคลื่อนที่เยอะมากก็จริง แต่ลูกฟุตบอลไม่ได้ถูกเคลื่อนไปข้างหน้า แต่กลับถูกผ่านไปมาในแนวระนาบเดียวกันเสียมากกว่า ในทางกลับกันเจ้าถิ่นที่ครองบอลได้น้อยกว่า แต่สวนกลับแล้วได้ลุ้นเกือบทุกครั้งเลยด้วยซ้ำ

ตลอดทั้ง 90 นาที อาร์เซนอล ได้ลูกเตะมุมมากถึง 10 ครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้เลยเมื่อเจอการประกบแบบกัดไม่ปล่อยของผู้เล่นฝั่งเจ้าบ้าน และมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ได้ลุ้นจากโอกาสของ กาเบรียล มากัลเญส ในช่วงท้ายเกม ซึ่งมันผิดวิสัยของทีมที่มีสถิติการเล่นลูกเซ็ตพีชที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ตามยังมีเกมเลกที่สองให้ต้องลุ้นกันต่อไป โอกาสยังคงเปิดกว้าง และบ่อยครั้งกลุ่มนักเตะชุดนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "พวกเขาปรับปรุงสิ่งผิดพลาดจากบทเรียนที่ย่ำแย่ได้เสมอ"