การเข้าแคมป์เก็บตัวที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ดูจะส่งผลดีกับเหล่าบรรดานักเตะภายในทีมเป็นอย่างมาก นอกจากสภาพร่างกายที่ฟิตเฟิร์มแล้ว สภาพจิตใจของพวกเขาก็ยังดูสดชื่น หึกเหิม ราวกับได้รับยาดีจากกรุงดูไบมายังไงยังงั้นแหละ

เริ่มจากเกมแรกของปี 2024 ที่ทำให้ผมต้องตบหน้าเตือนสติตัวเองทันที พร้อมสบถอย่างหยาบคายว่า “กูไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” โดยในเกมนั้น’พลพรรคปืนใหญ่’ต่างพร้อมใจกันตะบันตาข่ายต้อนรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ ไปถึง 5-0 ชนิดที่เรียกว่าผู้มาเยือนหาทางกลับบ้านไม่ถูก ต่อด้วยการยกทัพไปเฉือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-1 ซึ่งรูปเกมก็นับว่าครองบอลอยู่ฝ่ายเดียวตลอดทั้ง 90 นาที เพียงแต่ใช้โอกาสเปลืองมากไปหน่อย ไม่อย่างงั้นฝั่งเจ้าบ้านคงได้สะบักสะบอมกันมากกว่านี้

และเกมที่สำคัญที่สุดจาก 5 แมตซ์แรกก็เดินทางมาถึง อาร์เซนอล เปิดบ้านต้อนรับ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ในนาทีนั้นกำลังพกความมั่นใจมาสุดขีดชนิดที่เรียกว่า “สีแดงเต็มหลอด” หลังเคยบุกมาคว้าชัยที่สนามแห่งนี้ในเกมเอฟเอ คัพ ได้สำเร็จมาแล้วหนนึงเมื่อเดือนธันวาคม

แต่เมื่อถึงเวลาลงโม่แข้งกันในสนาม กลับกลายเป็นทีมของ อาร์เตต้า ที่กุมชะตาทางฝั่งผู้มาเยือนได้จนตลอดรอดฝั่ง โดยเฉพาะ 3 คู่หูในแดนกลาง ดีแคลน ไรซ์, จอร์จินโญ่ และ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่วาดลวดลายเล่นเอานักเตะของทีม’หงส์แดง’เสียกระบวนท่าไปซะทั้งหมด และในท้ายที่สุดก็เป็น 3 คะแนนอันล้ำค่าของทีมจากลอนดอนที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1

จากนั้นเป็นต้นมาดูเหมือน อาร์เซนอล จะถูกโฉลกกับทีมที่สวมยูนิฟอร์มสีแดงเลือดหมู พวกเขาเก็บความอาฆาตแค้นด้วยการบุกไปกระซวกไส้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ของกุนซือ เดวิด มอยส์ ถึงถิ่น 0-6 ต่อด้วยเหยื่ออันโอชะอย่าง เบิร์นลีย์ 0-5 เรียกได้ว่าจาก 2 แมตซ์นี้เหล่าลูกกรอกคะนองของ’ทัพปืนโต’ระดมยิงประตูใส่คู่แข่งจนปวดหัวแม่โป้งตีนกันเลยทีเดียว

The Lite Team.