The Blue House: แผลเดียวแผลนี้ สะเทือนยาวอีกหลายเกมแน่…!!
ก็ไม่ได้รู้สึกว่าผลบอลเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาจะพลิกล็อคอะไรนะครับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ไม่มีปัญหาใดใดในการเปิดรังสยบ ‘สิงห์บลู’ เชลซี ถล่มทลายแทบคลานกรุงลอนดอน 4-1
มาเริ่มที่การจัดตัวกันก่อน เชลซี มาในระบบ 4-2-3-1 ใช้ ยอร์เย เปโตรวิช ลงเฝ้าเสาเหมือนเคย ในขณะที่แผงหลังจะขาด 2 ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง รีซ เจมส์ แบ็คขวากัปตันทีม และ ลีวาย โคลวิลล์ ปราการหลังดาวรุ่งคนเก่ง ทำให้เป็นโอกาสของ อักเซล ดิซาซี่ และ เบอนัวต์ บาเดียชิล ตามลำดับ
ขยับมาที่กองกลาง เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ จัดหน่วยห้องเครื่องเต็มสูบ 16 แรงม้า ขยับเพียง โคล พาลเมอร์ ไปยืนหน้าเป้าในแท็คติคกองหน้าตัวหลอก หรือ False Nine แล้วใช้ โนนี่ มาดูเอเก้ ยืนประจำกราบขวาเพื่อเล่นเกมสวนกลับ
ถ้าดูจากการวางหมากของ ‘พอช’ แล้ว ผมคิดว่ามันก็พอได้ลุ้นอยู่ จะชั่งใจก็แค่ตรงไม่มี ‘เพชฌฆาตคร่าชีวิต’ ก็เท่านั้น แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะเสียก็ต้องเสี่ยงแผนนี้ดูหน่อย…!!
ผลปรากฎว่า เกมรุกที่สะท้านแสบทรวงของพลพรรคหงส์แดง ขยี้จุดเดิมซ้ำ ๆ จนแหลกไม่มีชิ้นดี แผลพุพองดังกล่าว มีดีกรีเป็นถึงแข้งทีมชาติฝรั่งเศส มูลค่า 35 ล้านปอนด์ อย่าง เบอนัวต์ บาเดียชิล นี่แหละ
นอกจากการยืนที่ดูเหมือนจะคุ้นชินกับ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟด้านขวา จนทับตำแหน่ง ติอาโก้ ซิลวา มั่วไปหมดแล้ว การอ่านเกมจังหวะสุดท้ายยังผิดเพี้ยนไปหมด เป็นเหตุให้โดนทั้ง ดิโอโก้ โชต้า, โดมินิค โซบอสซ์ไล และ ลุยซ์ ดิอาซ ทะลุเข้ามาหาจังหวะสอนเชิงแบบนิ่ม ๆ ส่วนที่หนักที่สุด คือ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ แบ็คขวาวัยกะเตาะจากอคาเดมี่ ‘หงส์แดง’ ก็ยังแทรกขึ้นมาซัดตุงกับเขาด้วย
การขาด ลีวาย โคลวิลล์ ในเกมใหญ่ ทำลายทุกอย่างตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มขึ้น และตัวน้องเองยังถือเป็นนักเตะ U21 ที่มีเรตติ้งสูงที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป จากการคำนวณผ่านตัวเลขของ Whoscored
เพียงเกมนี้เกมเดียวที่ เจอร์เกน คล็อปป์ โชว์กึ๋นความเป็นยอดกุนซือออกมา หลังจากนี้ เชลซี จะเจองานที่ยากกว่าเดิมแน่นอน เพราะหาก 1 ใน 4 แบ็คโฟร์ยังคงมีชื่อของ บาเดียชิล เป็นตัวจริงอยู่ ใคร ๆ ก็คงจับไต๋ได้หมดแล้ว ผมคอนเฟิร์ม!!.
The Lite Team.