‘ช้างศึก’ เตรียมทีมสำหรับทัวร์นาเมนต์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้ไม่ดีเท่าไหร่หนัก หลังมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนจาก มาโน่ โพลกิ้ง มาเป็น มาซาทาดะ อิชิอิ ในช่วงปลายปี จนทำให้ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น มีเวลาเตรียมทีมน้อยมาก และได้อุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการเพียงนัดเดียว กับทีมโคตรแข็งอย่าง ญี่ปุ่น 

ไหนจะเป็นเรื่องระยะเวลาการเก็บตัว การเดินทางไปถึงกาตาร์ เป็นชาติสุดท้าย ซึ่งเราได้เขียนมาก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนเอเชียน คัพ เปิดฉาก ผมมั่นใจว่าถ้ามองกันด้วยความเป็นจริง ๆ ทีมชาติไทย ไม่น่าผ่านจากรอบแบ่งกลุ่มได้ อย่างแย่ที่สุดก็อาจจะไปถึงจบรายการด้วยการไม่ชนะใคร 

ทาจิกิสถาน, โอมาน และ ซาอุดิ อาระเบีย คือ 3 เกมในรอบแรกที่เราผ่านมา ถ้ามองมุมนึงมันคือการไต่ระดับในการเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ทาจิกิสถาน แม้ว่าอันดับโลกจะดีกว่าเรา แต่ก็เรียกว่าอยู่ในระดับที่สู้ได้ เช่นเดียวกับโอมาน ที่เรามีโอกาสได้ประลองฝีเท้าอยู่บ่อยครั้งในอดีต จะมีของหินก็แค่เพียง ซาอุฯ ที่เป็นทีมเดียวที่ยัดเยียดความปราชัยในอาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว 

ชนะ 1 เสมอ 2 แถมไม่เสียประตูเลย คือความยอดเยี่ยมของเราในรอบแบ่งกลุ่ม แม้ว่าจะยิงได้เพียง 2 ประตูก็ตามที แต่ผมก็จะพูดเหมือนในบทความที่ผ่านมาคือ อิชิอิ เข้ามายกระดับเกมรับให้กับ ‘ช้างศึก’ ได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์ 

อุซเบกิสถาน คืองานหนักมาก ๆ ของไทย แน่นอนการเหลือแค่ 16 ทีมในรอบนี้ไม่ว่าเจอใครก็ต้องสู้ แต่กับ อุซเบฯ น่าจะเป็นงานยากมากของไทย นั่นคือความคิดก่อนเกมของผม เพราะ ‘หมาป่าขาวแห่งเอเชียกลาง’ ครบเครื่องมากในเวลานี้ ซึ่ง เอเชียน คัพ หนนี้ รอบแบ่งกลุ่ม เสมอกับออสเตรเลีย เสียประตูเพียงประตูเดียว และยิงได้ถึง 4 ลูก 

บวกกับการที่เราได้เห็นฟอร์ม อิกอร์ เซเกอเยฟ กองหน้าของพวกเขามาโชว์ฟอร์มในประเทศไทย กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเขาครบเครื่องในทุกด้าน ไล่มาตั้งแต่ รูปร่างใหญ่ไม่ต่างจากชาติจากยุโรป ความเข้าในในการเล่นฟุตบอล และแท็กติก ยอดเยี่ยม เพราะหลายคนก็ค้าแข้งกับสโมสรในยุโรป และสุดท้ายคือความเฉียบคม ในเกมรุก ที่พวกเขาจะหาโอกาสในการจบสกอร์ด้วยความเฉียบคมได้เสมอ 

นัดนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ มาแปลก เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงผู้เล่นที่ฟอร์มดีใน 2 เกมแรก สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และพีรดนย์ ฉ่ำรัศมี เป็นตัวสำรอง ส่งวรชิต, ปฐมพล และรุ่งรัฐ ที่ได้โอกาสในเกมกับซาอุฯ ออกสตาร์ทก่อน ถ้าให้เดา เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น ต้องการพลังงานในการเพรซ รวมถึงการวิ่งเล่นเกมรับ เพื่ออย่างน้อยที่สุดเก็บผลเสมอ 0-0 ให้ได้ในครึ่งเวลา และค่อยส่งตัวรุกที่สดๆ ไปวัดกันต่อในช่วงครึ่งหลัง 

เสียดายที่แท็กติก ดังกล่าวกันเกมรุกของ อุซเบฯ ได้เพียง 37 นาที และประตูแรกก็เกิดขึ้นจากการผิดพลาดของเราเอง ที่ รุ่งรัฐ จ่ายบอลเสีย จนโดนโต้กลับ และพวกเขาก็ใช้ลูกโยนยาว ให้ อาซิซเบ็ค ตูรกุนเบฟ พักบอล และยิงประตูเข้าไปอย่างเหนือชั้น 

ทำให้ครึ่งหลังต้องแก้เกมด้วยการส่ง สุภโชค, ศุภณัฏฐ์ และอย่างที่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้เช่นเคย การประสานงานในเกมรุกลับมาเข้าขากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อส่งผลให้เกิดประตูตีเสมอของ สุภโชค ที่มาจากการเล่นบอกสั้นๆ ก่อนจะปั่นโค้งๆ เสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม แบบติดหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรายการได้เลย 

อุซเบกิสถาน ไม่ปล่อยให้แฟนบอลชาวไทย ดีใจ และได้ใจกันนาน ประตูดับความหวังเกิดขึ้นเพียง 7 นาทีต่อมา จากช่องโหว่เล็กน้อยในการเล่นเกมรับ บวกกับการยิงอย่างเฉียบคมของ ฟายซุลลาเยฟ ที่ช่องการยิงน่าจะเป็นช่องเดียวที่มีโอกาสส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่ายได้ และ ฟายซุลลาเยฟ ก็ทำได้ ประตูนี้แสดงให้เห็นถึงความเฉียบของเกมรุกจากชาติที่อยู่หัวแถวของเอเชีย ได้เป็นอย่างดี

ในช่วงเวลาต่อจากนี้ ทีมนำก็เล่นอย่างรับกุม ถอยลงไปตั้งรับ เปิดโอกาสให้ ‘ช้างศึก’ เปิดหน้าบุกได้มากขึ้นตลอดเกือบๆ 25 นาทีสุดท้ายของเกม แต่ก็ไม่เกิดผลแต่อย่างใด 

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เรามาจอดที่รอบ 16 ทีมอีกครั้ง แต่หากลองดูปัจจัยอื่นๆ ที่เราได้กล่าวมาทั้งหมด ทั้งการเปลี่ยนแปลงหัวเรือกะทันหัน เวลาเตรียมทีมที่น้อย ไหนจะขาดผู้เล่นตัวหลักอีก การพ่ายแพ้ในเกมนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียใจแต่อย่างใด 

ทีมชาติไทยยังมีโปรแกรมสำคัญที่รออยู่ต่อกับการลงเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โดยเฉพาะเกมที่จะต้องเจอกับเกาหลีใต้ และในห้วงเวลาต่อจากนี้ เราจะได้เห็นว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะปรับเปลี่ยนทิศทางของ ‘ช้างศึก’ ไปเป็นไปในแนวทางใน กับระยะเวลาที่เขามีแบบเต็มที่

เขียนโดย The Lite Team.