obj
obj

คอลัมน์บอล

TOP 10 : สุดยอด ‘เซ็นเตอร์แบ็ค’ ตลอดกาลศึก ‘พรีเมียร์ลีก’

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยกล่าวเอาไว้ว่า “เกมรุกจะทำให้คุณชนะ แต่เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์” และแน่นอนว่าผู้เล่นซึ่งสำคัญมากที่สุดในการป้องกันจะเป็นตรงไหนไปไม่ได้นอกจาก ‘เซ็นเตอร์แบ็ค’ และ 10 สุดยอดนักเตะในตำแหน่งนี้จะเป็นใครบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ



10. สตีฟ บรูซ(Steve Bruce)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 148 นัด ยิง 11 ประตู จ่าย 5 แอสซิสต์ คลีนชีต 61 ครั้ง
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x3, เอฟเอ คัพ x3, ลีค คัพ x1, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ คัพ x1

เกียรติยศส่วนตัว: -


ยุคเริ่มต้นความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นจากความแข็งแกร่งที่ สตีฟ บรูซ เป็นผู้นำในแนวรับคู่กับ แกรี่ พัลลิสเตอร์ ดาวเตะรุ่นน้อง


ถึงแม้ว่าเส้นทางอาชีพของ บรูซ จะไม่สำเร็จมากนัก เนื่องจากว่างงานตั้งแต่ถูกปลดจาก เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อต้นปี 2022 แต่ว่าในฐานะนักเตะ เขาคือกัปตันทีมผู้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยแรกของสโมสร โดยรับคู่กับ ไบรอัน ร็อบสัน ในปี 1993, 1994 และ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล 1996



9. เจมี่ คาราเกอร์(Jamie Carragher)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 508 นัด ยิง 3 ประตู จ่าย 15 แอสซิสต์ คลีนชีต 195 ครั้ง
สโมสรเด่น: ลิเวอร์พูล
ถ้วยความสำเร็จ: เอฟเอ คัพ x2, ลีก คัพ x3, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก x1, ยูฟ่า คัพ x1

เกียรติยศส่วนตัว: ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรลิเวอร์พูล x1


แม้ว่าจะไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แม้แต่สมัยเดียว และด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่ได้สวยงาม อีกทั้งยังมีภาพการสกัดเข้าประตูตัวเองให้แฟนบอลทีมอื่นต้องหัวเราะเยาะอยู่เป็นประจำ


แต่ว่าตลอด 17 ปีที่ สเกาเซอร์ รายนี้เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตาคือการ เอาชัวร์ หันหน้าไปทางไหนเตะไปทางนั้น เข้าใส่สุดทุกจังหวะ แม้ตะคริวจะเกาะแกะอยู่ก็ตาม จึงเป็นเหตุผลให้สาวกพันธุ์แท้ ให้ใจแข้งรายนี้ไปเต็ม ๆ ซึ่งนี่คือนักเตะ ‘วัน แมน คลับ’ คนสุดท้ายของสโมสรที่แขวนสตั๊ดไปแล้ว 



8. มาร์ติน คีโอว์น(Martin Keown)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 323 นัด ยิง 4 ประตู จ่าย 7 แอสซิสต์ คลีนชีต 108 ครั้ง
สโมสรเด่น: อาร์เซนอล
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x3, เอฟเอ คัพ x3, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ คัพ x1

เกียรติยศส่วนตัว: -




ต่อให้จะเป็นเด็กฝึกสโมสรของ อาร์เซนอล แต่เขาต้องออกไปท่องโลกทั้งกับ ไบรท์ตัน, แอสตัน วิลล่า และ เอฟเวอร์ตัน ก่อนทัพ ‘ปืนใหญ่’ จะซื้อกลับมาด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงในสมัยนั้น


อย่างที่ทราบกันดีว่าการมาถึงของ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่ว่านักเตะที่เล่นฟุตบอลโบราณมาตั้งแต่ยุค ดิวิชั่น 1 ก็สามารถปรับตัวเข้ากับแทคติคสมัยใหม่ของกุนซือชาวฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี และนี่คือหนึ่งในนักเตะชุดแชมป์แบบ ‘ไร้พ่าย’



7. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค(Virgil Van Dijk)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 246 นัด ยิง 21 ประตู จ่าย 7 แอสซิสต์ คลีนชีต 99 ครั้ง
สโมสรเด่น: ลิเวอร์พูล
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x1, เอฟเอ คัพ x1, ลีก คัพ x1, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก x1, สโมสรโลก x1

เกียรติยศส่วนตัว: นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล พรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x3, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรลิเวอร์พูล x1, อันดับ 2 บัลลงดอร์ x1


การย้ายมาเมื่อเดือนมกราคม 2018 ด้วยค่าตัวสถิติโลกในเวลานั้น ส่งผลให้เกิดวลี ‘มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโง่ด้วย’ แต่เพียงแค่แปปเดียว ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวก็อุดปากแฟนบอลคู่อริได้แบบเงียบกริบ


เขาสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นอันดับ 2 รางวัลบัลลงดอร์ เมื่อปี 2019 เป็นรองเพียงแค่ ลีโอเนล เมสซี่ อย่างน่าเสียดาย โดยเรื่องน่าเสียดายที่สุดมีเพียงแค่อาการบาดเจ็บซึ่งพรากเขาจากสนามไปเกือบหนึ่งปี และการมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาขวางการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้จะทำแต้มมากกว่า 90 คะแนน ไปถึง 2 ครั้ง



6. โซล แคมป์เบล(Sol Campbell)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 503 นัด ยิง 20 ประตู จ่าย 15 แอสซิสต์ คลีนชีต 154 ครั้ง
สโมสรเด่น: ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, อาร์เซนอล
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x2, เอฟเอ คัพ x3

เกียรติยศส่วนตัว: ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x3, ทีมรวมดารา ฟีฟ่า ประจำปี x1


ชื่อของเขาต้องอยู่ในลิสต์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าสาวก ‘ไก่เดือยทอง’ อาจจะรู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนก็ตาม ด้วยการย้ายไปร่วมทัพ ‘ปืนใหญ่’ คู่อริตลอดกาลแบบเหมือนขี้เกียจย้ายบ้าน จนกลายเป็น ‘จูดาส’ ครั้งประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล


แคมป์เบล คือกองหลังที่ดีที่สุดของเกาะอังกฤษ ในช่วงยุค 90 ต่อ 2000 หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า Y2K โดยในฤดูกาล 2003/04 ที่ อาร์เซนอล คว้าแชมป์แบบไร้พ่าย เจ้าตัวคือเซ็นเตอร์ตัวหลัก โดยลงสนามไปมากถึง 35 นัด



5. แวงซองต์ กอมปานี(Vincent Kompany)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 265 นัด ยิง 18 ประตู จ่าย 8 แอสซิสต์ คลีนชีต 94 ครั้ง
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x4, เอฟเอ คัพ x2, ลีก คัพ x4

เกียรติยศส่วนตัว: นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล พรีเมียร์ลีก x1, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ x1, ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ x1, ทำเนียบหอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก


ใครก็ตามที่เคยเล่นเกม ฟุตบอล เมเนเจอร์ ช่วงประมาณปี 2003-2005 ล้วนต้องเคยซื้อแข้ง ‘วอนเดอร์คิด’ จาก อันเดอร์เลชท์ มาปลุกปั้นให้กลายเป็นเซ็นเตอร์ระดับซูเปอร์สตาร์อย่างแน่นอน


และแล้ว ‘เทพ FM’ รายนี้ก็ทำให้กลายเป็นเรื่องจริง เมื่อเขาคือผู้สวมปลอกแขนกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในรอบ 44 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2012 นอกจากนั้นในปี 2019 เขายังยิงไกลสุดสวยนัดที่ 37 ของฤดูกาล ให้ทีมเบียดคว้าแชมป์เหนือ ลิเวอร์พูล ในท้ายที่สุด



4. ริโอ เฟอร์ดินานด์(Rio Ferdinand)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 504 นัด ยิง 11 ประตู จ่าย 8 แอสซิสต์ คลีนชีต 189 ครั้ง
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x6, ลีก คัพ x2, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก x1, สโมสรโลก x1

เกียรติยศส่วนตัว: ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x6, ทำเนียบหอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก, ทำเนียบหอเกียรติยศทีมชาติอังกฤษ


กองหลัง ‘ปากเป็ด’ รายนี้โด่งดังตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่งของ เวสต์แฮม ก่อนจะเคยพา ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปี 2001 อย่างไรก็ตามภาพจำของเจ้าตัวคือการประสบความสำเร็จสูงสุดในเครื่องแบบ ‘ปีศาจแดง’ 


ถ้าจะให้พูดถึงเซ็นเตอร์รายนี้ให้เข้าใจง่ายที่สุด คือรูปแบบการเล่นยอดฮิตในปัจจุบัน ที่กองหลังระดับท็อปจำเป็นต้องเติมเกมรุกได้ดี นั้นคือสิ่งที่ เฟอร์ดินานด์ ทำมาตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว



3. โทนี่ อดัมส์(Tony Adams)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 255 นัด ยิง 12 ประตู จ่าย 9 แอสซิสต์ คลีนชีต 115 ครั้ง
สโมสรเด่น: อาร์เซนอล
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x2, เอฟเอ คัพ x3, ลีก คัพ x2, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ คัพ x1

เกียรติยศส่วนตัว: ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรอาร์เซนอล x1, ทำเนียบหอเกียรติยศทีมชาติอังกฤษ


คำว่า ‘มิสเตอร์ อาร์เซนอล’ บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทุกอย่างในชีวิตของ อดัมส์ นั้นเป็นส่วนหนึ่งเดียวกันกับสโมสร เมื่อเขาเล่นให้กับทีมเดียวตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน จนเป็นกัปตันทีมของเหล่า ‘เดอะ กูนเนอร์ส’ ยาวนานถึง 14 ปี


เรื่องนึงที่น่านับถือมาก ๆ ของกองหลังรายนี้คือการที่กล้ายอมรับต่อทุกคนว่าเขาติดแอลกอฮอล์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของนักฟุตบอลในยุคคลาสสิค แต่นั่นก็ทำให้เขาได้มีเวลากับครอบครัวมากขึ้น และกลายเป็นต้นแบบสำหรับนักกีฬาหลายคนในเรื่องนอกสนาม



2. เนมานยา วิดิช(Nemanja Vidic)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 211 นัด ยิง 15 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ คลีนชีต 95 ครั้ง
สโมสรเด่น: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x5, ลีก คัพ x3, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก x1, สโมสรโลก x1

เกียรติยศส่วนตัว: นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x2, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x4, ทีมยอดเยี่ยมฟีฟ่า x2, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด x1


แม้ว่าจะเป็นแข้งจากทีมชาตินอกเรดาร์ลูกหนังอย่าง เซอร์เบีย แต่ว่า วิดิช ก็สามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยการพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์แบบใช้นิ้วมือนับไม่ครบ 


ช่วงแรกของเจ้าตัวบนแดนผู้ดี อาจจะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่สุดท้ายก็ปรับตัวจนกลายเป็นตัวหลัก อีกทั้งยังได้รับการยกย่องเหนือคู่ขาของเขาอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เป็นคนอังกฤษขนานแท้ ซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นประโยชน์สูงสุดของทีมที่ทัพ ‘ปีศาจแดง’ ยังหาไม่เจอในปัจจุบัน



1. จอห์น เทอร์รี่(John Terry)



สถิติในพรีเมียร์ลีก: ลงสนาม 492 นัด ยิง 41 ประตู จ่าย 12 แอสซิสต์ คลีนชีต 214 ครั้ง
สโมสรเด่น: เชลซี
ถ้วยความสำเร็จ: พรีเมียร์ลีก x5, เอฟเอ คัพ x5, ลีก คัพ x3, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก x1, สโมสรโลก x1, ยูโรป้า คัพ x1

เกียรติยศส่วนตัว: นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x1, ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก x4, ทีมยอดเยี่ยมฟีฟ่า x5, ทีมรวมดารา ฟีฟ่า ประจำปี x1, ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล สโมสรเชลซี x2


จากเด็กฝึกสโมสร สู่นักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เชลซี เขาชูถ้วยระดับเมเจอร์มาแล้วทุกรายการภายใต้เสื้อสีน้ำเงินของ ‘สิงห์บลู’


อย่างที่ทราบกันดีว่าการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2005 นั้นทีมต้องรอยาวนานถึง 50 ปี โดยปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาคว้าโทรฟี่ คือการที่ตลอดฤดูกาล พวกเขาเสียไปเพียง 15 ประตู และ เทอร์รี่ คือผู้บัญชาเกมรับ


ไฮไลต์ที่สุดของเขาคือความทุ่มเทแบบไม่คิดชีวิต อย่างที่เห็นกันในรอบชิงชนะเลิศ ลีก คัพ เมื่อปี 2007 ที่พยายามโหม่งทำประตู จนถูกกองหลังคู่แข่งหวดเต็มคางสลบคาสนามแบบไม่กลัวตายเพื่อชัยชนะ แล้วแบบนี้ลูกทีมจะไม่สู้เพื่อกัปตันของเขาได้อย่างไร


เขียนโดย Yim Never Walk Alone
The Lite Team.




ติดตามข่าวสารฟุตบอลต่างประเทศและคอลัมน์ฟุตบอล ข้อมูลเที่ยงตรง เข้าถึงข้อมูลร้อนเร็วทันเหตุการณ์จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ รายละเอียดเกี่ยวกับเกม ผลการแข่งขัน, สถิติของทีม, ข่าวเกี่ยวกับนักเตะและทีมรัก, ทรรศนะ และบทวิเคราะห์, และข้อมูลอื่น ๆ จากทีมชั้นนำจากทั่วโลก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และอื่นๆ อีกมากมาย ข่าวสารบอล ต้องเว็บไซค์ของคนบ้าบอล ข่าวสดยุคใหม่ 24 ชั่วโมง ต้อง lockscore.com เท่านั่น

icon
icon

0'

Aston Villa

1

icon

Leeds United

2

icon LIVE NOW