นิโคลัส โจเวอร์ แรกเริ่มเดิมทีเขาได้รับโอกาสในการเป็นนักวิเคราะห์เกมประจำสโมสรดังอย่าง มงต์เปลลิเยร์ ในระหว่างปี 2009-2016 และมีช่วงเวลาสำคัญกับการเป็นหนึ่งในทีมงาน(จำเป็น)ของทีมชาติโครเอเชียชุดใหญ่เมื่อปี 2013 ก่อนจะโยกย้ายตัวเองมายังลีกแดนผู้ดี โดยเริ่มงานกับ เบรนท์ฟอร์ด ในฐานะผู้ฝึกสอนลูกตั้งเตะในช่วงปี 2016-2019 ก่อนจะถูกสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื้อเชิญให้ย้ายร่วมทัพในซีซั่นต่อมา

ซึ่งการมายังถิ่นเอติฮัดของเขา สามารถยกระดับของทีมได้อย่างทันที โดยเฉพาะการเล่นลูกตั้งเตะที่มีความอันตรายมากขึ้น จากสถิติที่เคยทำได้เพียง 11 ประตูในฤดูกาลก่อนหน้าถูกแปรผันมาเป็น 17 ประตูตั้งแต่ปีแรกที่เขาเข้าทำงาน มิหนำซ้ำในปีสุดท้ายก่อนย้ายออกจากเมืองแมนเชสเตอร์ เขายังพาทีมตะบันตาข่ายคู่แข่งจากลูกตั้งเตะไปถึง 13 ประตู

ภายหลังที่ อันเดรียส จอร์จสัน (อดีตโค้ชลูกตั้งเตะของ อาร์เซนอล) อำลาสโมสรไปอย่างกระทันหัน ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า จำเป็นต้องมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านลูกเซ็ตพีชคนใหม่ ก่อนที่สุดท้ายจะมาลงเอยกับ นิโคลัส โจเวอร์ ซึ่งทั้งคู่เคยทำงานร่วมกันที่ แมนฯ ซิตี้ อยู่แล้วก่อนหน้านี้

การเข้ามาของชายที่ชื่อว่า นิโคลัส โจเวอร์ สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับสโมสรแห่งลอนดอนเหนืออีกครั้ง จากทีมที่เคยพะว้าพะวงหลังเคยถูกคู่แข่งโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ ก็กลายเป็นทีมที่เสียประตูจากการโดนบอมยากขึ้น ในทางกลับกันพวกเขาสามารถโยนความกดดันเหล่านั้นกลับคืนให้กับคู่ต่อสู้ในการรับมือลูกตั้งเตะ

ทันทีที่ โจเวอร์ เข้ารับงานที่ อาร์เซนอล ลูกทีมของ อาร์เตต้า ก็ทำประตูจากลูกตั้งเตะได้ถึง 6 ประตู ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนแรก ซึ่งเทียบเท่ากับทั้งฤดูกาล 2020/21 หรือก่อนที่ โจเวอร์ จะเข้ามา ก่อนที่สุดท้ายแล้วฤดูกาลดังกล่าวพวกเขาจะจบซีซั่นด้วยการทำประตูจากลูกตั้งเตะไปได้ถึง 16 ประตู รั้งอันดับที่ 3 ของลีก

ผ่านไป 21 นัดกับ 13 ประตูจากลูกตั้งเตะในซีซั่นนี้ (เตะมุม 10,ฟรีคิก 2, และลูกทุ่มอีก 1 ประตู) จากผลงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นแล้วว่าชายที่ชื่อ ‘นิโคลัส โจเวอร์‘ สำคัญกับ อาร์เซนอล มากแค่ไหน

เขียนโดย The Lite Team.