ถ้าจะพูดถึงแนวรุก ‘เรด แมชชีน’ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ‘บังโม’ คือ นัมเบอร์วัน นั่นแปลว่าหากชายผู้นี้ ไม่ได้คอยช่วยทีม น่าจะทำให้เกมรุกลดความอันตรายลงไปพอสมควร แต่ผมว่าตัวที่เหลืออยู่ก็ทดแทนได้อยู่แล้ว

ตัวรุกคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ ดิอาซ ที่ฟอร์มเริ่มจะกลับมาแล้ว หลังจากประสบกับปัญหาภายในครอบครัว หรือ ดิโอโก โชต้า ที่แม้ว่าเขาชอบหายไปจากเกมอยู่บ่อย ๆ แต่อยู่ดี ๆ มักจะโผล่มาทำประตูหรือแอสซิสต์ได้เฉยเลย

โคดี กักโป คือ ผู้เล่นสารพัดประโยชน์ของ เจอร์เกน คลอปป์ ซึ่งอาจจะเล่นแทนตำแหน่งของ ซาลาห์ ในช่วงนี้ และมาถึง ดาร์วิน นูนเยซ ที่แฟน ๆ ต่างคาดหวังให้เป็น ‘เดอะ เน็กซ์ ซัวเรซ’ / ‘เดอะ เน็กซ์ ตอร์เรส’ แต่จากฟอร์มที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ บอกเลยว่า แม้จะทุ่มเททุกอย่างให้ทีม แต่ขาดความเฉียบคมในการยิงประตู ทรงนี้มัน ติโม แวร์เนอร์ ชัด ๆ

แล้วแดนกลางที่ขาด เอนโด ไปละ แน่นอนว่าการมาของแข้งญี่ปุ่นจาก สตุตการ์ท สร้างความแคลงใจต่อ ‘เดอะ ค็อป’ ส่วนมาก แต่เมื่อได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น เขาก็สามารถช่วยเล่นเกมรับได้ดี จนแฟน ๆ ต่างออกมาชื่นชมเขาอย่างล้นหลาม

ทำให้ช่วงนี้ ‘หงส์แดง’ ต้องกลับมาใช้ แมค อลิสเตอร์ เล่นตำแหน่งเบอร์ 6 ซึ่งก็เคยเล่นมาแล้วช่วงต้นซีซั่น จนกว่า เอนโด จะกลับจากภารกิจใน เอเชียน คัพ โดยสิ่งที่ได้จากอดีตแข้ง ไบรท์ตัน คือ วิสัยทัศน์การจ่ายบอล ที่มีมากกว่านักเตะที่สวมเสื้อเบอร์ 3 ของทีม แต่เซนส์ในการเล่นเกมรับคงจะด้อยกว่าแน่ ๆ

สัปดาห์นี้ ‘เดอะ เรดส์’ มีคิวลงใน พรีเมียร์ลีก ที่จะบุกไปเยือน บอร์นมัธ ซึ่งต่อให้ฟอร์มของเค้ากำลังมาแรง และเราขาดตัวหลักไปหลายคน แต่ผมว่าเราน่าจะเอาชนะได้แบบที่ไม่ง่ายมากนัก

แต่หลังจากรอบรองชนะเลิศ อีเอฟแอล คัพ เลก 2 อาจทำให้เรากังวลขึ้นมาอีกนิดนึง เพราะ ลิเวอร์พูล จะทำศึก บิ๊กแมตช์ กับ เชลซี และ อาร์เซนอล 2 นัดติดต่อกันในเกมลีก แต่ผมก็ยังคิดว่า เจอร์เกน คลอปป์ คงจะหาวิธีการให้ได้ 3 แต้มมาอยู่แล้ว

การที่ ซาลาห์ และ เอนโด ไม่ได้อยู่ในทีมช่วงนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญสำหรับยักษ์ใหญ่แห่งเมอร์ซีย์ไซด์ ว่าเมื่อคุณขาดตัวหลักไป คุณจะยังแข็งแกร่งอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ และยังจะรักษาผลงานได้ดีแค่ไหนเพื่อออกล่าทุกโทรฟีในซีซั่นนี้

เขียนโดย The Lite Team.