ชวนคุยก่อนเกม: ‘พรีเมียร์ลีก’ เตะ 10 พัก 10
กลับมาเข้าสู่โปรแกรม พรีเมียร์ลีก ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2023-24 โดยที่ในสัปดาห์นี้อาจจะดูเหงา ๆ กันหน่อยกับการที่มีการแข่งขันเพียง 5 คู่เท่านั้นครับ
ถ้าหากได้เหลือบมองตารางการแข่งขันในสัปดาห์นี้ อาจจะดูแปลกตากันไปบ้าง แต่นั่นก็เป็นเพราะลีกสูงสุดต้องการให้สโมสรของพวกเขาได้มีเบรกหนีหนาวเหมือนกับลีกอื่น ๆ ในยุโรป เพียงแต่เป็นการเบรกแบบ ‘แบ่งครึ่ง’ นั่นเองครับ
ยกตัวอย่างนะครับ ช่วงเบรกของ บุนเดสลีกา ก็จะเริ่มกันตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมปีที่แล้ว และจะมาลงเล่นกันอีกในสุดสัปดาห์นี้พร้อมกันทุกทีม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของลีกอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ของ พรีเมียร์ลีก จะแบ่งให้ 10 ทีมได้พักและอีก 10 ทีมได้ลงเล่นในสัปดาห์นี้ โดยที่ในสัปดาห์หน้าก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไปครับ
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับแฟนฟุตบอลที่ไม่อยากว่างเว้นจากการรับชมเกมในช่วงสุดสัปดาห์ และทางลีกเองก็ยังได้ค่าถ่ายทอดสดตามปกติอีกด้วย ‘วิน-วิน’ กันทุกฝ่าย
สัปดาห์นี้ เริ่มต้นกันที่ค่ำคืน ‘ฟรายเดย์ ไนท์’ เป็นศึกท้ายตารางของ เบิร์นลีย์ ที่จะเปิดบ้านพบกับ ลูตัน ทาวน์ ซึ่งกว่าที่บทความนี้จะได้ลงไป ก็น่าจะทราบผลการแข่งขันกันเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
ถ้าหาก ‘เดอะ แฮตเตอร์ส’ สามารถคว้าชัยชนะในเกมนี้มาได้ พวกเขาก็จะทะยานหลุดจากโซนสีแดงได้เลย ส่วน ‘เดอะ คลาเร็ตส์’ หากยังหวังที่จะอยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไป เกมที่เจอกับทีมในระดับเดียวกันแบบนี้ก็ต้องคว้า 3 คะแนนมาให้ได้เท่านั้น
ข้ามมากันยังเกมในวันเสาร์ เริ่มต้นด้วยเกมในเวลา 1 ทุ่มครึ่ง เป็นเกม ‘ลอนดอน ดาร์บี้’ ครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ในฤดูกาลนี้ โดยที่ เชลซี จะต้อนรับการมาเยือนของ ฟูแล่ม สโมสรที่อยู่ในละแวกเดียวกัน
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็คงเซ็งที่ทีมของตัวเองไม่สามารถหลุดจากอันดับ 10 ไปได้เสียที แต่เกมนี้ก็ถือเป็นโอกาสอันดีของพวกเขาแล้ว โดยที่มีลุ้นขยับขึ้นไปถึงอันดับที่ 7 ได้เลย หากชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูขึ้นไป
ทางฟากของทีมเยือนก็เหนื่อยหน่อย เพราะต้องลงเล่นเกม ลีกคัพ กลางสัปดาห์ที่พ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล มาด้วย แถมยังมีสถิติที่ไม่ค่อยดียามต้องลงเล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกด้วย โดยที่ไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 18 เกมหลังสุดในสนามแห่งนี้ด้วย
มาต่อกันที่คู่ดึกของคืนวันเสาร์ เป็นเกมที่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ฟอร์มตกลงไปอย่างมากจากเมื่อฤดูกาลก่อน เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บที่เล่นงานนักเตะของพวกเขา โดยที่ในปัจจุบันรั้งอยู่ในอันดับ 9 ของตารางคะแนน
ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้ว่าจะมีช่วงที่สะดุดไปพักใหญ่ ๆ แต่ก็ยังคงได้ลุ้นแชมป์อยู่เหมือนเคย จากการที่ยังอยู่ในอันดับ 3 ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล อยู่ 5 คะแนน แต่ลงเล่นน้อยกว่า 1 เกม
‘เรือใบสีฟ้า’ มีสถิติที่ข่ม ‘สาลิกาดง’ อย่างชัดเจน จากการเจอกัน 32 เกมหลังสุดในลีก พวกเขาพ่ายแพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือการพ่ายแพ้ใน เซนต์ เจมส์ พาร์ก ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อเดือนมกราคม 2019
โยกกันมาที่ 2 คู่สุดท้ายในค่ำคืนวันอาทิตย์กันเลยนะครับ เริ่มต้นจาก เอฟเวอร์ตัน เตรียมลงเล่นกับ แอสตัน วิลล่า
ทีมของ ฌอน ไดซ์ ถูกหักไป 10 คะแนนจากการละเมิดกฏการเงินของ พรีเมียร์ลีก แต่ก็สู้กลับด้วยการคว้าชัยชนะมา 4 นัดรวด แต่ก็มาสิ้นลายใน 3 เกมหลังสุดที่สถานการณ์พลิกผันกลับมาแพ้รวด และยืนอยู่บนขอบเหวด้วยการมีคะแนนเหนือโซนตกชั้นเพียงแค่คะแนนเดียว
ทีมม้ามืดประจำฤดูกาลอย่าง วิลล่า ที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการอยู่ในอันดับที่ 2 ก่อนขึ้นปีใหม่ ก็น่าจะพร้อมแล้วสำหรับการพิสูจน์ตัวเองในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ว่าจะสามารถยืนระยะไว้ได้หรือไม่
พวกเขามีสถิติที่น่าสนใจพอสมควรในการลงเล่นกับ ‘ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน’ ซึ่งนับตั้งแต่ที่เลื่อนชั้นกลับมาเมื่อปี 2019 พวกเขายังไม่เคยแพ้ให้กับทีมจาก เมอร์ซีไซด์ ทีมนี้เลย โดยที่สามารถเก็บคลีนชีตได้ใน 6 เกมหลังสุด รวมถึงยังคว้าชัยชนะ 5 เกมหลังสุดอีกด้วย
มาถึงคู่สุดท้ายประจำสัปดาห์ จะเรียกว่า ‘บิ๊กแมตช์’ ได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ เป็นการพบกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
17 เกมหลังสุดของคู่นี้ยามลงเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใน พรีเมียร์ลีก ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยที่เป็นฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่คว้าชัยชนะไปได้ถึง 13 ครั้ง
แต่สถานการณ์ทีมของ เอริก เทน ฮาก ก็ไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไร โดยที่ 5 นัดหลังสุดในลีก พวกเขาสะกดคำว่า ‘ชนะ’ ได้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ทำให้หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนน
ทางด้าน สเปอร์ส เป็นทีมเดียวในลีกตอนนี้ที่มีการเสริมทัพอย่างจริงจัง โดยที่ยืมตัวของ ติโม แวร์เนอร์ และคว้าตัว ราดู ดรากูซิน เข้ามาร่วมทีมตั้งแต่ช่วงต้นของตลาดซื้อขายเดือนมกราคม ก็ต้องมารอลุ้นกันว่านักเตะใหม่ทั้ง 2 รายจะได้มีส่วนร่วมกับเกมในวันนี้หรือไม่
นอกจากนี้ พวกเขายังมีลุ้นในการกลับเข้าไปอยู่ในพื้นที่ท็อปโฟร์อีกครั้ง หากผลการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้เป็นใจให้กับ ‘ไก่เดือยทอง’
สำหรับทีมได้ทำการแข่งขันในสัปดาห์นี้ ก็จะไม่โปรแกรมในสัปดาห์หน้าอย่างที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้แล้วนะครับ แล้วก็จะเป็นคิวลงเล่นสำหรับอีก 10 ทีมที่ได้พักกันมาอย่างเต็มเหนี่ยว โดยที่จะกลับมาลงเล่นพร้อม ๆ กันทั้ง 20 ทีมอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือนนี้
ยังคงต้องลุ้นกันต่อไปยาว ๆ สำหรับฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษในฤดูกาลนี้นะครับ จนถึงตอนนี้ ก็ไม่ชัดเจนว่าทีมไหนที่จะคว้าแชมป์หรือตกชั้น ก็ดูกันไปเป็นเกมต่อเกม นี่แหละสีสันของฟุตบอลครับผม
เขียนโดย Uncle Bear
The Lite Team.